กระดานสุขภาพ

ไม่รู้เป็นอะไรที่ทวารหนักครับ
Bill*****o

16 มีนาคม 2560 12:13:33 #1

อันนี้เป็นมานานแล้วครับ เมื่อก่อนท้องผูกบ่อย แต่สามเดือนหลังที่เริ่มดูแลตัวเองท้องก็ไม่ผูกละครับ แต่อุจจาระแข็งบางครับ แต่เลือดไม่ออก จนเมื่อวานนั่งถ่ายแล้วอุจจาระแข็งมาก บาดจนเป็นแผลเลือดไหลเยอะมากครับ อยากรู้ที่เป็นติ่งสีม่วงๆ ใช่ริดสีดวงรึเปล่าครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/bill.billion.guo-35612.jpg

ผมมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคร้ายรึเปล่าครับ ผมชอบมีอาการอุจจาระบาดทวารหนักบ่อยๆ เป็นมาหลายปีแล้วด้วยครับ เป็นๆ หายๆ
อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 64 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.75 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

21 มีนาคม 2560 04:47:16 #2

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นเส้นเลือดที่โป่งออก มีเลือดมาคั่งเป็นสีม่วง น่าจะเป็นริดสีดวงทวาร สาเหตุของริดสีดวงทวาร มีหลายอย่าง เช่น ลักษณะนิสัยการถ่ายผิดปกติ (ท้องผูก หรือ ท้องเสีย) ออกกำลังกายน้อย รับประทานอาหารที่มีเส้นใยเช่นผักผลไม้น้อย เบ่งอุจจาระนาน อ้วน และทำงานที่ต้องนั่งเป็นเวลานานๆ ถ้าเป็นมากขึ้น เส้นเลือดจะโป่งออก และโผล่ออกมาอยู่ด้านนอกได้เช่นในกรณีของคุณ ถ้ามีการรักษาที่ถุกต้อง ตั้งแต่เรื่องสุขอนามัย การกินอาหารประเภทผัก ผลไม้ ดื่มน้ำมากๆ ปรับเรื่องการขับถ่ายซึ่งการฝึกต้องทำบ่อยๆจนเกิดความเคยชิน หรืออาจรักษาด้วยยาสอดทางทวารหนัก การฉีดยาให้ยุบ การผูกเส้นเลือด การจี้ด้วยเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรง แนะนำหาหมอระบบศัลยกรรมครับ นอกจากนี้เห็นมีแผลตื้นๆรอบทวารหนัหด้วย ถ้าคุณมีประวัติเป็นเกย์และมีการร่วมเพศโดยมีการสอดใส่ทางทวารหนัก ก็อาจจะต้องระวังว่ามีการติดเชื้อโรคอื่นๆร่วมด้วยที่พบบ่อยคือเริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง โดยสรุป น่าจะเป็นริดสีดวง แต่ถ้ามีประวัติเป็นเกย์ก็ควรจะตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ด้วยครับ