กระดานสุขภาพ

ตุ่มแดงที่อวัยยะวะเพศ
Anonymous

13 กุมภาพันธ์ 2560 15:55:54 #1

มี พสพ ครับแล้วเป็นหนองในพ้อมมีตุ่มแดงฯเล็กๆ รักษาแล้วครับ อาการแสบขัด หนองไหลก็หาย แต่ตุ่มยังมีอยู่ จากการอานกะทู้เรื่องหนองใน คีดว่าจะเป็นหนองในเทียมด้วย กีนยาdoxcycilinปะมาน7 8วันตุ่มก็ค่อยหายไปแต่เมือวานมีน้ำใสๆไหลออกมา ค้ายน้ำมุกเหนียวใส ปะมานหยดนื่งครับ กวามากเลยครับ แล้วตุ่มแดงจะรักษายังงัย
อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.65 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

20 กุมภาพันธ์ 2560 06:46:07 #2

ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน ในกรณีของคุณถ้าหลังจากรักษาไม่ได้มีความเสี่ยงเพิ่มเติม ก็น่าจะหาย มูกใสๆที่เห็น ถ้าเป็นตอนเช้า อาจจะเกิดจากมูกตามธรรมชาติ สามารถตรวจว่าเป็นมูกตามธรรมชาติหรือเป็นมูกที่เกิดจากการอักเสบจากเชื้อหนองในหรือหนองในเทียม โดยการย้อมสีและดูด้วยกล้อลจุลทรรศน์ ถ้ายังมีเซลล์เม็ดเลือขาว แสดงว่ายังมีการติดเชื้ออยู่ ส่วนเรื่องตุ่มแดงที่บริเวณอวัยวะเพศ อาจจะเกิดจากการที่หนังหุ้มปลายแพ้ ระคายเคืองสารที่ใช้ เช่น สบู่ยา ครีม เจลอาบน้ำ ร่วมกับความอับชื้นเนื่องจากหนังหุ้มยังไม่เปิดหรือเปิดไม่สุดหรือรัดเวลาอวัยวะเพศแข็งตัวหรือรูดลงไม่ได้สุด จึงทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง

แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ประโยชน์ของการขลิบ คือ ทำความสะอาดง่ายไม่เกิดแผลเวลามีเพศสัมพันธ์และมีการวิจัยที่ทวีปแอฟริกาพบ ว่าการขลิบหนังหุ้มปลายช่วยลดการติดเชื้อเอดส์เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ขลิบ 40% แต่ ประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาเรื่องนี้