กระดานสุขภาพ

น้องสาวผมติดเชื่อในกระแสเลือด
Kiat*****n

18 กุมภาพันธ์ 2556 18:23:24 #1

  น้องสาวผมมีอาการไม่สบาย จึงเข้าแอดมิดที่โรงพยาล รักษาได้สามวัน เมื่อหายก็ออกจาก รพ หลังจากนั้นหนึ่งถึงสองวัน
ก็มีอาการอาเจียร ไม่มีแรง มีไข้ 39 จึงนำส่ง รพ เดิม พบว่าความดันล่าง42 ต่ำมาก มีอาการหนาวสั่น แพทย์พิจารณาให้เข้า ไอซียู หลังจากนั้นสักพัก แพทย์ก็ระบุว่า น้องสาวผมติดเชื้อในกระแสเลือด แต่น้องผมยังรู้สึกตัวอยู่นะครับ และตอนนี้ก็รอผลเลือดว่าติดเชื้อในจุดใด และเชื้อชนิดใด
 
   แต่สิ่งที่ผมกังวลคือ เพื่อนพี่สาวผม เคยมีอาการเช่นนี้ หนาวสั่น ความดันต่ำ ติดเชื้อในกระแสเลือด แต่เมื่อออก รพ ได้ สองวัน ก็เสียชีวิต  และผมกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำรอยอีก

 จึงอยากเรียนถามคุณหมอว่า ในเคสของน้องสาวผม มีอันตรายมากมั้ยครับ และควรจะต้องทำอย่างไร

ขอบคุณคุณหมอล่วงหน้ามากๆครับที่ช่วยตอบ

  

อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 46 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.90 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
น*****

28 กุมภาพันธ์ 2556 14:40:25 #2

ก่อนอื่นต้องให้กำลังใจคุณ Kiattinan นะครับ คงรู้สึกกังวลเรื่องน้องสาวอย่างมาก จากข้อมูลที่คุณ Kiattinan ให้มาน้องสาวของคุณป่วยนอนในห้องไอซียูด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งปกติคุณหมอที่ให้การรักษาจะวินิจฉัยจากอาการคือ

  1. ไข้

  2. การตรวจสัญญาณชีพผิดปกติ ทางการแพทย์จะดูหลายอย่างคือ ค่าความดันโลหิต. ปกติจะมี 2 ค่า ค่าบนและค่าล่างโดยที่ความดันโลหิตที่ต่ำคือตัวบนน้อยกว่า 90 และตัวล่างน้อยกว่า 60. , ดูจากชีพจรที่เต้นไวกว่าปกติ ในผู้ใหญ่เอาค่ามากกว่า 120 ครั้งต่อนาที

  3. มีการตรวจเม็ดเลือดขาวในกระแสเลือดถ้ามีค่ามากว่า 15,000ตัวต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร ร่วมกับมีตำแหน่งอวัยวะที่สงสัยว่าเป้นจุดกำเนิดของการติดเชื้อเช่น ในปอด. เลือด ระบบทางเดินปัสสาวะ

 

โดยแพทย์จะส่งเลือด เสมหะ ปัสสาวะเพาะเชื้อว่าเกิดจากเชื้อใดซึ่งทางห้องปฏิบัติการจะทำการเพาะเชื้อหรือนำ้สารคัดหลั่งที่สงสัยว่าจะมีการติดเชื้อมาย้อมสี และตรวจว่าเป็นเชื้อใดจะใช้เวลาอย่างน้อย 24-72 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามแพทย์ผุ้ทำการรักษาจะไม่ได้รอว่าเกิดจากเชื้อใดแล้วจึงให้ยา แต่แพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อ (ยาปฏิชีวนะ) ไปล่วงหน้าก่อนแล้ว.ร่วมกับสารน้ำหรือยากระตุ้นการเต้นของหัวใจในกรณีที่ ความดันโลหิตต่ำและไม่ตอบสนองต่อการให้สารน้ำ หลังจากนั้นแพทย์ก้จะติดตามอาการและผลเลือดว่ามีอาการดีขึ้นหรือไม่และจะปรับยาฆ่าเชื้อให้เหมาะสมอีกครั้งหลังจากทราบเชื้อที่ได้จากการเพาะเชื้ออีกครั้ง

ตอบข้อถามคุณ Kiattinan ณ เวลานี้เรียนแนะนำให้คุณ Kiattinan ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลน้องสาวคุณ Kiattinan ซึ่งจะตอบข้อสงสัยได้มากกว่าครับเพราะได้ติดตามอาการน้องสาวคุณ Kiattinan ตลอด