กระดานสุขภาพ

หนูเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันค่ะ
Nuch*****8

2 กุมภาพันธ์ 2560 04:11:59 #1

ตอนนี้หมอตรวจพบว่ามีตัวอ่อนในเลือดกว่า90% เกร็ดเลือดเหลือประมาณสองหมื่นตัว และตัวอ่อนลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง วันที่7กพ.60เค้านัดเจาะใส่ท่อเตรียมให้คีโม ตอนนี้หนูมีอาการเจ็บคอ ปวดหัวหน้ามืด ไข้ขึ้นสูงบ่อยมีจุดเลือดหรือจ้ำขึ้นตามตัวตาข้างขวาเบลอหรือเห็นเป็นจุดๆดำๆขาวๆ บางทีก็เป็นฝ้า ไอ และเจ็บใต้ซี่โครง หอบเหนื่อย ระบบขับถ่ายไม่ค่อยดี รู้สึกเหมือนท้องมันจะโตๆแน่นๆขึ้นนิดหน่อย เพลียไม่ค่อยมีแรง หมอไม่บอกว่าหน ูเป็นระยะไหน หนูเพิ่งเริ่มเป็นตรวจเจอโรคมาเกือบๆ1เดือนเองค่ะ คุณหมอพอจะแนะนำได้ไหมว่าหนูเป็นระยะที่เท่าไหร่ ถ้้าทำคีโมหนูจะมีสิทธิ์รอดไหม
อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.04 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศ. พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ

(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์และโลหิตวิทยา)

20 กุมภาพันธ์ 2560 12:50:51 #2

ก่อนอื่นหมอต้องขอชื่นชมหนูที่หนูเข้มแข็งที่จะถามและใฝ่หาความรู้เกี่ยวกับโรคที่หนูกำลังเผชิญอยู่

หมอคาดว่าคุณหมอที่รักษาหนูอยู่คงได้อธิบายเรื่องโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวแก่หนูไปบ้างแล้วและเชื่อว่าหนูคงมีกำลังใจในการต่อสู้กับความเจ็บป่วยและความไม่สุขสบายจากการรักษาที่จะต้องพบ ขณะนี้หนูคงเริ่มได้ยาเคมีบำบัดแล้ว และการให้ยาจะมีสูตรของการรักษาตามชนิดของโรค ซึ่งคงต้องใช้เวลานานพอสมควร

อาการต่างๆที่หนูเล่ามานั้นเป็นอาการที่เกิดจากมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่เกิดในไขกระดูกจำนวนมากไปรุกรานการสร้างเซลล์เม็ดเลือดปกติ คือเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือด หนูมีอาการเหนื่อยเพลียเนื่องจากภาวะซีดเพราะเม็ดเลือดแดงสร้างได้น้อยลง มีจุดจ้ำเลือดและเลือดออกง่ายเนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำ มีไข้และมีการติดเชื้อง่ายจากเม็ดเลือดขาวต่ำ หรือไข้เกิดจากตัวโรคเอง อาการแน่นท้องเกิดจากมีตับและม้ามโตขึ้นเนื่องจากมีเซลล์มะเร็งไปอยู่ในอวัยวะนั้นๆ เช่นเดียวกับการมีต่อมน้ำเหลืองโตด้วย แต่อาการดังกล่าวมักจะดีขึ้นหลังให้การรักษาไม่นาน โดยเฉพาะในคนที่ตอบสนองต่อการรักษาดี อาการของโรคจะสงบภายใน 4-6 สัปดาห์ แต่แพทย์ยังไม่หยุดรักษา ต้องให้ยาต่อไปอีกขึ้นกับว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดใด

หนูถามว่าโรคของหนูอยู่ในระยะเท่าใด

ตามปกติมะเร็งชนิดอื่นๆ จะเกิดขึ้นตามอวัยวะต่างๆก่อน หากมีการกระจายไปที่อื่นที่ห่างไกลจากต้นกำเนิดจะเรียกว่าระยะกระจาย หากมาที่ไขกระดูกจะเรียกระยะที่ 4 แต่มะเร็งเม็ดเลือดขาวกลับกันเกิดที่ไขกระดูกแล้วไปที่อื่น จึงไม่ได้เรียกว่าระยะใด เรียกว่ามะเร็งเม็ดเลือดขาว หากมีตัวอ่อนมากๆเรียกว่าชนิดเฉียบพลัน

มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันมีหลายชนิดไม่ทราบว่าหนูเป็นชนิดใด แต่หากจะแบ่งเป็นกุล่มใหญ่ๆ จะมี 2 กลุ่มคือ กลุ่มมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดลิมฟอยด์และชนิดมัยอีลอยด์ ผลการรักษาแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามในปัจจุบันผลการรักษาดีกว่าแต่ก่อนมากและโอกาสรักษาหายขาดมีมากกว่าเดิมมาก มีการรักษาหลักโดยให้ยาเคมีบำบัด และบางกลุ่มอาจจะให้การรักษาต่อด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด หรือที่เรียกกันว่าการปลูกถ่ายไขกระดูก หรืออาจจะรอผลการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดก่อนเมื่อโรคกลับเป็นใหม่ก็ให้เริ่มต้นรักษาให้โรคสงบอีกครั้งแล้วต่อด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด

เมื่อพูดถึงโรคมะเร็งไม่มีใครอยากเป็น หากเลือกได้ถ้าจำเป็นต้องเป็นโรคก็ขอเป็นโรคอื่นๆที่รักษาง่ายไม่เจ็บตัว แต่หมอจะบอกหนูว่าการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวมีการพัฒนาจนผลการรักษาเป็นที่พอใจ หนูอาจจะท้อแท้ในระหว่างการรักษา เพราะหนูอาจต้องเผชิญกับผลแทรกซ้อนจากยาเคมีบำบัด ซึ่งอาจทำให้หนูมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปากเป็นแผล ผมร่วง หรือมีการกดไขกระดูกจนเม็ดเลือดขาวต่ำมีไข้ติดเชื้อตามมา หรือมีเลือดออก จากเกล็ดเลือดต่ำได้ หมอเอาใจส่งมาให้หนูเข้มแข็งมีกำลังต่อสู้กับความยากลำบากต่างๆ และให้หนูมีผลการรักษาดี

เรื่องผมร่วงจะเป็นชั่วคราวหลังให้ยาแล้ว 3- 6 เดือนหนูจะมีผมขึ้นใหม่ที่สวยงาม หนูมีหน้าที่ที่จะต้องไปรับการรักษาตามนัด เมื่ออาการดีขึ้นหมอจะนัดรักษาและติดตามอาการเป็นระยะ หนูควรรับประทานอาหารที่สุกสะอาด ผักขอให้รับประทานที่ปรุงสุก ไม่รับประทานผักดิบ ซึ่งอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน ผลไม้ล้างให้สะอาดปอกเปลือกและหากเป็นไปได้ปอกเสร็จล้างอีกครั้ง พยายาม อย่าให้ท้องผูก รักษาสุขภาพปากและฟัน ใช้แปรงขนนุ่มแปรงฟันระวังเลือดออก เล็บตัดสั้นสะอาด ในระยะแรกถ้าผมยาว ตัดให้สั้นเสียก่อน เมื่อผมร่วงจะได้ไม่รู้สึกเปลี่ยนเร็วเกินไป

เมื่อกลับไปพักที่บ้านหากมีอาการผิดปกติเช่นมีไข้ต้องรีบไปโรงพยาบาล เนื่องจากหากมีปัญหาติดเชื้อจะได้รีบรักษา หรือมีอาการปวดศีรษะ ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่ามีการกระจายของโรคไปที่สมองหรือไม่เป็นต้น
หากจะไปในที่มีคนมากๆ ให้หาผ้าปิดปากและจมูก ป้องกันการติดเชื้อจากคนป่วยอื่นๆ

หมอเอาใจช่วยให้หนูผ่านความเจ็บป่วยนี้ไปได้อย่างเข้มแข็งค่ะ

 

ศาสตราจารย์แพทย์หญิงอรุณี เจตศรีสุภาพ