กระดานสุขภาพ

กินยา concor นานๆจะเป็นอะไรไหมครับ
One1*****1

17 กุมภาพันธ์ 2556 19:43:27 #1

พอดีว่าเคยใจสั่น ไปหาหมอๆบอกหัวใจมีเต้นผิดจังหวะ ให้นา concor มากิน (2.5 mg) ก็กินมาประมาณครึ่งปีแล้ว ทางคุณหมอที่รักษาบอกให้กินต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ผมเลยสงสัยครับว่ายาพวกนี้เรากินต่อเนื่องได้เรื่อยๆใช่ป่าวครับ แล้วมันจะไม่เป็นอันตรายต่อส่วนอื่นของร่างกายหรือครับ

พอดีช่วงนี้ยาใกล้หมด ถ้ามันต้องทานต่อเนื่องจริงๆจะได้นัดคุณหมอรับยาใหม่ ส่วนอากาตอนนี้นานๆก็มีใจสั่นบ้าง แต่นานๆจะเป็นซักครั้งครับ

เคยไปรีเช็คอีกโรงพยาบาลนึง(ตอนนั้นจะผ่าตัด หมอที่ผ่าเลยให้หมอหัวใจตรวจให้อีกที หมอหัวใจบอกอาการปกติ)

อายุ: 25 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 66 กก. ส่วนสูง: 179ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.60 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

20 กุมภาพันธ์ 2556 02:53:48 #2

เรียน คุณ one1

หากแพทย์ประจำของคุณได้ทำการตรวจอย่างละเอียดแล้ว คงต้องรับประทานยาตลอดชีวิต เพื่อควบคุมหัวใจให้เต้นเป็นจังหวะ ซึ่งถ้าไม่ควบคุมอาการให้ดี อาจทำให้เกิดหัวใจทำงานหนัก หรือ ลิ่มเลือดอุดตันได้ ซึ่งถ้าหลุดลอยไปอุดตันที่หลอดเลือดที่สมอง ปอด หรือขา ก็จะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้นได้

ไม่ทราบได้แจ้งคุณหมอที่จะทำการผ่าตัดด้วยหรือไม่ว่ากำลังรับประทานยานี้อยู่ เนื่องจากขณะที่รับประทานยา หัวใจที่เคยเต้นผิดจังหวะ ก็จะทำงานคล้ายปกติได้ และโรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา มักจะตรวจพบขณะเกิดอาการ หรือผู้ป่วยแจ้งอาการ แล้วมีการตรวจเพิ่มเิติม เช่น การเดินหรือวิ่งสายพาน หรือการฉีดยาเพื่อทดสอบการทำงานของหัวใจ หากต้องการจะตรวจสอบผลการตรวจของแพทย์ก่อนหน้า กรุณาแจ้งด้วยว่าคุณเคยมีอาการอย่างไร เป็นเมื่อใด และกำลังรับประทานยาใดอยู่

ขออนุญาตให้ข้อมูลยา Concor เพื่อความสบายใจของคุณนะครับ

ชื่อการค้า     Concor 5
ชื่อสามัญ     Bisoprolol [fumarate]
รูปแบบยา    ยาเม็ด

ยานี้ใช้สำหรับ
ยานี้ใช้เพื่อรักษาโรคความดันโลหิตสูง หัวใจวาย เจ็บแน่นหน้าอก

วิธีใช้ยา
ยานี้อยู่ในรูปแบบยาเม็ดใช้สำหรับรับประทาน โดยทั่วไปรับประทานวันละ 1 ครั้ง หรือให้ใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร รับประทานยานี้ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ แต่ควรรับประทานยาให้ตรงเวลาทุกครั้ง ห้ามหยุดใช้ยาด้วยตัวเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน

การรับประทานยานี้อาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ เนื่องจากความดันโลหิตลดลง หรือง่วงซึมได้ ดังนั้นไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล และควรเปลี่ยนท่าทางอย่างช้าๆ
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างที่รับประทานยานี้อยู่

สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ
มีประวัติแพ้ยา bisoprolol หรือแพ้ยาอื่นๆ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพรที่ท่านใช้อยู่ในขณะนี้หรือกำลังจะใช้ มีหรือเคยมีโรคหรือสภาวะต่างๆ ดังนี้ เป็นโรคหืด ภาวะหัวใจวาย หัวใจเต้นช้ากว่าปกติ การทำงานของตับ ไต หรือระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ โรคเบาหวาน ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร หากต้องเข้ารับการผ่าตัด ทำฟัน ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษา

ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา
โดยทั่วไปถ้าลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้กับมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า ยึดหลักครึ่งหนึ่งของเวลามื้อถัดไป เช่นหากรับประทานวันละ 1 ครั้ง เวลา 9.00 น. หากไม่ถึง 12 ชั่วโมง ให้รับประทานยามื้อที่ลืมทันที แต่หากเกิน 12 ชั่วโมง เช่น 23.00 น. ให้รอรับประทานมื้อเช้า และ ห้ามเพิ่มยาเป็น 2 เท่าเด็ดขาด

อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา

  1. อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที มีดังนี้ มือ ขาส่วนล่าง เท้า หรือข้อเท้าบวม สั่น น้ำหนักเพิ่มผิดปกติ ผื่นคัน เหงื่อออกมากผิดปกติ ปัสสาวะปริมาณมากขึ้น ใจสั่น หรือหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ ปวดข้อ สับสน หายใจลำบาก หรือหายใจมีเสียงหวีด เวียนศีรษะ รู้สึกเหมือนจะเป็นลม กระหายน้ำมากขึ้น ชาบริเวณมือ เท้า หรือปาก การมองเห็นภาพผิดปกติ ตาพร่ามัว
  2. อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ มีดังนี้ ท้องเสีย เหนื่อย อ่อนเพลียผิดปกติ

การเก็บรักษายา
เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก
เก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ให้อยู่ในที่ร้อนมากกว่า 30 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณที่ถูกแสงแดดโดยตรง และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น
ทิ้งยานี้เมื่อยาหมดอายุ

ยานี้ถูกกำจัดที่ตับ และขับออกทางไต (ปัสสาวะ) ดังนั้นหากคุณมีการทำงานของตับหรือไตปกติ ไม่ต้องกลัวว่ายาจะสะสมนะครับ

 

เป็นกำลังใจให้ครับ
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

One1*****1

20 กุมภาพันธ์ 2556 16:26:09 #3

ครับผม ตอนนั้นจะผ่าตัดริดสีดวง ก็ได้บอกหมอแล้วว่าทานยาตัวนี้อยู่ ซึ่งวันผ่าตัดกับวันพักฟื้นคุณหมอก็ได้ให้งดยา แล้วให้กินต่อหลังจากนั้น


ส่วนตอนนี้ก็ทานยาทุกวัน เข้าฟิตเนสทุกวันๆละ 2ชั่วโมง(วิ่งครึ่งชั่วโมง และยกเวทอีกประมาน 1.30ชั่วโมง) ก็ยังไม่มีอาการหน้ามืดหรือใจสั่นครับ(เข้าใจว่ายาที่ทานเข้าไปมันช่วยคุมอยู่)

ก็คือผมน่าจะต้องไปพบหมอเพื่อรับยามาทานต่อใช่ไหมครับถ้ายาตัวนี้หมด


ขอบคุณครับ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

21 กุมภาพันธ์ 2556 08:21:18 #4

เรียน คุณ one1,

ตามอาการที่แพทย์วินิจฉัย ก็ต้องรับประทานยานี้เพื่อคุมอาการไปตลอดครับ ตามสาเหตุที่ได้แจ้งไปแล้ว คือ เรื่องลิ่มเลือดอุดตัน

ส่วนเรื่องการออกกำลังกาย ลองปรึกษาคุณหมอด้วยนะครับ เพื่อจะได้ไม่ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักเกินไป

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล