กระดานสุขภาพ

อยากสอบถามเรื่องของอาการเจ็บหน้าอก และหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
KiMK*****A

17 กุมภาพันธ์ 2556 16:56:22 #1

เมื่อ 6 ปีที่แล้ว กำลังจะเดินข้ามทางม้าลาย แต่อยู่ๆหัวใจก็หยุดเต้นเฉียบพลันโดยที่ไม่มีสัญญาณใดๆเตือนเลย หน้าจอเริ่มมืดและกำลังดับ ลมหายใจเริ่มจะหมด แต่ก็กลั้น ฝืน เพื่อให้ได้กลับมาหายใจอีกครั้งหนึ่งหัวใจหยุดเต้นไปประมาณเกือบ 1 นาทีเหมือนทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก (ตอนนั้นหนัก 51 สูง 160) หลังจากนั่นก็เริ่มมีอาการที่คาดว่าน่าจะเกี่ยวกับหัวใจเรื่อยๆ อีก1ปีต่อมา นอนหลับอยู่ก็เหมือนกับหัวใจหยุดเต้นไปซะดื้อๆ จนต้องพยายามตื่นขึ้นมาหายใจเหือกใหญ่ คล้อยๆลมหายใจเหือกสุดท้ายเลย และ หลังจากนั้น 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ก็มีอาการเจ็บหัวใจเหมือนธนูแทงจากข้างหน้าทะลุถึงด้านหลังบ้าง หัวใจเต้นรั่วผิดปกติบ้าง บางทีก็เต้นเหมือนอ่อนแรงบ้าง และครั้งล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นั่งเรียนตามปกติแต่อยู่ๆกลับมีอาการเจ็บอย่างแรง พยายามกดไปที่หน้าอกแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆกลายเป็นว่าเจ็บยิ่งกว่าเดิมจนใจจะขาด อยากทราบว่าอาการเหล่านี้มันคืออะไร มีวิธีการป้องกันอย่างไร จะรักษายังไงให้หาย 

อายุ: 23 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 73 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 28.52 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Man*****n

18 กุมภาพันธ์ 2556 03:05:43 #2

ผมเคยเป็นครับ ไปตรวจหัวใจอาการปกติ หมอบอกเกิดจากการเครียดครับ 

KiMK*****A

19 กุมภาพันธ์ 2556 06:36:42 #3

อ่อ แล้วหมอตรวจโดยวินิจฉัย หรือตรวจหาอย่างละเอียดอ่า

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

19 กุมภาพันธ์ 2556 15:17:49 #4

ขอตอบแบบตั้งคำถามเป็นข้อๆ นะครับ

ข้อแรก คุณเป็นโรคหัวใจหรือไม่
จากประวัติ คุณเป็นแบบนี้มาประมาณ 6 ปี แต่ไม่มีประวัติว่าต้องนอนโรงพยาบาล แม้จะมีอาการแบบนี้เป็นๆ หายๆ มาเรื่อยๆ ทำให้ผมมองว่าน้ำหนักของโรคหัวใจชนิดหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยงคงไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะถ้าเป็นโรคนี้จริง มันคงเล่นงานคุณหนักขึ้นเรื่อยๆ และหนักกว่านี้มาก
อีกอย่าง ทุกครั้งที่เป็นแม้คุณจะบอกว่าอาการหนักมาก แต่ก็ไม่มีประวัติว่ามันถึงกับทำให้คุณเป็นลมหรือต้องฟุบไปเลย ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่มีอาการคุณสามารถที่จะจัดการกับมันได้ จึงไม่คิดว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับโรคหัวใจชนิดหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคุณเป็น "คนอ้วน" จึงอยากแนะนำให้คุณพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คเรื่องโรคหัวใจด้วย เพื่อความสบายใจ

ข้อสอง แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นมันคืออะไร
อยากให้คุณสังเกตว่า เวลามีอาการมันมีอะไรเป็นเหตุนำก่อนหรือไม่ เช่นกลัว ตกใจ กังวลไม่สบายใจ เสียใจ ผิดหวัง ฯลฯ หรือว่าอยู่ดีๆ มันก็เกิดขึ้นมาเองโดยไม่มีอะไรเตือน ข้อมูลนี้มีผลต่อการวินิจฉัยและการรักษามากครับ เพราะสิ่งที่ผมสงสัยก็คือคุณอาจจะมีปัญหาเรื่องโรคความกังวล หรือไม่ก็ปัญหาเรื่องโรคแพนนิค ซึ่งทั้งสองโรคมีอาการคล้ายๆ กัน แต่โรคแพนนิคอยู่ดีๆ มันก็เกิดขึ้นเอง ไม่มีอะไรนำมาก่อน มันเป็นเรื่องความผิดปรกติของสารเคมีในร่างกายของเรา ส่วนโรคกังวลมันมีสาเหตุมาจากความกังวลใจของเราเอง

ข้อสาม ควรปฏิบัติตัวอย่างไร

  1. แนะนำให้ตรวจร่างกายตามข้อหนึ่งก่อน เพื่อจะได้กระจ่างว่ามันไม่ใช่เรื่องของโรคหัวใจแน่นอน
  2. พบจิตแพทย์ ขอย้ำว่าต้องเป็นจิตแพทย์ เพราะการรักษาโรคกังวลหรือโรคแพนนิคนั้นมีรายละเอียดเฉพาะเยอะมากทีเดียว คนที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้พอจะไม่สามารถคลี่คลายปัญหาที่ว่านี้ได้

 

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

Man*****n

20 กุมภาพันธ์ 2556 07:45:39 #5

ผมเป็นจนเข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง คิดว่าจะวูปไปเหมือนตายหัวใจจะหยุดเต้น บางทีเต้นแรงและเร็วมากๆ

 

ตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า ทุกอย่างปกติ หมอสรุปว่าเป็นโรคพานิกหรือโรคเครียด ต้องพบจิตแพทย์ (ไม่ได้บ้านะครับ)

แต่เป็นเพราะความเครียดวิตกกังวล บางครั้งเราไม่ได้เครียด แต่มันอยุ่ในส่วนลึกของสมอง จะเป็นบ่อยสุดคือตอนนอนครับ

 

ทานยาโพรเซกมานาน ตอนนี้พยายามแก้ไขตัวเอง เพราะไม่อยากทานยาอีกต่อไปแล้วครับ

 

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

21 กุมภาพันธ์ 2556 08:47:39 #6

เข้าใจความรู้สึกของคุณครับว่า รำคาญแล้วทำไมมันไม่จบไม่สิ้นซะที

ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าคุณป่วยด้วยโรคแพนิค กำลังรักษาอยู่และยาที่ใช้ก็เป็นยามาตรฐานที่จิตแพทย์ทั่วโลกเขาใช้กัน โรคนี้เป็นโรคทางจิตเวชครับ จิตแพทย์ไม่ได้รักษาเฉพาะคนบ้า มีโรคชนิดอื่นอีกเยอะที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญของจิตแพทย์ อย่างโรคที่คุณเป็นอยู่ในขณะนี้เป็นต้น

ตอนนี้ผมว่าทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางแล้ว การวินิจฉัยโรคถูกต้อง คนที่รักษามีความชำนาญ

ปัญหาก็คือ อนาคตมันจะเป็นอย่างไร
ธรรมชาติของโรคนี้ผู้ป่วยประมาณ 30% หายขาด, อีก 50% อาจมีอาการอีกได้ จะมีเพียงประมาณ 20% เท่านั้นที่โรคจะเรื้อรังและกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

การติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ การสร้างกำลังใจให้กับตัวเองเพื่อที่จะสู้กับโรค คือปัจจัยที่จะช่วยให้ผลลัพท์เป็นไปในทางที่ดีครับ

 

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

KiMK*****A

22 กุมภาพันธ์ 2556 04:26:44 #7

ขอบคุณคุณหมอมากๆเลยที่ช่วยแนะนำ ลืมบอกไปว่าแม่ของหนูก็เป็นโรคหัวใจ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเกี่ยวกับส่วนไหนของหัวใจเพราะแม่รักษาอยู่ที่ต่างประเทศรู้แค่ว่าหมอให้เค้านำเครื่องวัดชีพจรกับเครื่องอะไรอีกก็ไม่รู้ว่าติดไว้เต็มไปหมดเป็นแแบพกพาให้ใส่ติดตัวยิ่งกว่าพระซะอีก ตอนเค้ากลับมาเมืองก็มีอาการแบบเดียวกันคืออยู่ๆก็วูบไปเลยจนถึงขั้นต้องปั้มหัวใจช่วยเหลือ พอไปหาหมอที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น หมอเค้าแค่ใช้การวินิจฉัยแล้วบอกว่าแม่เป็นประสาทต้องพบจิตแพทย์ ซึ่งมันสวนทางกับแพทย์ที่เยอรมันตรวจเลย ที่นู้นเค้าตรวจเลือด ตรวจหาสาเหตุทุกอย่าง แต่ที่ไทยแค่วินิจฉัย แล้วอย่างงี้จะมั่นใจได้มากน้อยแค่ไหนว่าหมอที่เราจะไปตรวจด้วยเก่งจริงๆ กังวลกับการไปตรวจมากๆเลยพอเจอเคสแบบนี้ กลัวพอหมอบอกไม่มีอะไร แต่พออาการหนักๆแล้วค่อยมาตรวจเจอมันคงจะแย่แล้วตอนนั้น

Man*****n

22 กุมภาพันธ์ 2556 14:54:42 #8

เมื่อก่อนคุณหมอแนะนำให้ติดเครื่องวัดหัวใจเหมือนกันแต่ไม่ได้ติด เอาไว้วันอาการเต้นของหัวใจเพื่อดูว่าเต้นผิดจังหว่ะหรือเปล่าครับ

 

ตอนแรกผมก็คิดอย่างคุณครับ และตอนนี้ก็ยังคิดอยู่บ้างว่า เครียดแล้วทำไมมันเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น จะวูป

ตอนที่เป็นน่าตกใจมากๆนะครับคือ บางครั้งหัวใจเหมือนหยุดเต้นจับหน้าอกไม่มีอะไรเลย ต้องรีบมาจับชีพจรก็ยังเต้น

บางทีหัวใจเต้นเร็วมากๆๆๆๆและแรงด้วย

 

ซึ่งอาการตรงนี้ก็คาใจผมเหมือนกันครับว่า มันจะมีโอกาสหัวใจวายหรือเปล่าเพราะเต้นเร็วและแรงมากๆเลยครับ

 

 

Man*****n

22 กุมภาพันธ์ 2556 14:55:50 #9

ขอบคุณ คุณหมอ อุดม เพชรสังหาร ที่ให้คำแนะนำและคำตอบครับ

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

22 กุมภาพันธ์ 2556 18:07:29 #10

การวินิจฉัยโรคแพนิค สิ่งแรกที่ต้องหมอจะต้องทำก็คือแยกโรคหัวใจออกให้ได้ เพราะโรคและวิธีการรักษาต่างกัน แม้จะมีอาการบางอย่างคล้ายกัน เท่าที่ฟังคุณเล่าดูเหมือนว่าหมอก็ทำในสิ่งนี้อยู่ ผมว่ากระบวนการน่าจะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

อีกอย่างโรงพยาบาลศรีนครินทร์เป็นโรงเรียนแพทย์ มีความพร้อมทางด้านบุคลากร เครื่องมือต่างๆ สูง แถมมีศูนย์โรคหัวใจด้วย ผมว่าน่าจะสบายใจได้นะครับ

 

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร