กระดานสุขภาพ

ปรึกษาปัญหาหลังจากตัด ม้าม!!
Benz*****e

2 กุมภาพันธ์ 2556 04:06:23 #1

ขอผู้ที่มีความรู้ หมอ หรือ ผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับการตัดม้ามด้วยครับ
เรื่องมีอยู่ว่า เเฟนผมไปเล่นสโนบอร์ดเเล้วเกิดการกระเเทกอย่างเเรงจึงต้องตัดม้าม
ตัวผมได้หาข้อมูลมาบ้างเเล้ว เเต่ก็ยังไม่กระจ่างเท่าไร

จึงอยากถามผู้รู้ว่า
1 ส่งผลเสียอย่างไรบ้างต่อร่างกาย?
2 วิธีการดูเเลรักษาหลังจากตัดเเล้ว รวมไปถึงการกิน?
3 เสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่ออะไรบ้างครับ?

ผู้ที่ช่วยเหลือ ขอให้ผลบุญส่งกลับ ให้มีสุขภาพเเข็งเเรงอย่าได้เจ็บปวดครับ ขอบคุณครับ

อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.37 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศ. พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ

(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์และโลหิตวิทยา)

3 กุมภาพันธ์ 2556 17:57:17 #2

1.การตัดม้ามไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายมากนักโดยเฉพาะผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงดีมาก่อน แต่การมีความรู้และป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการตัดม้ามจะทำให้ไม่เพิกเฉยต่อภาวะแทรกซ้อนเช่นการติดเชื้อแบคทีเรียอย่างรุนแรงแม้พบไม่มากแต่ต้องการการรักษารีบด่วน จึงเป็นการเตรียมตัวที่ดี
ผลเสียจากกการตัดม้าม ปัจจุบันพบที่สำคัญคือ

- การติดเชื้อแบคทีเรียที่มีแคปซูล เนื่องจากม้ามเป็นที่ที่มีการสร้างภูมิคุ้มกันและม้ามมีเซลล์เม็ดเลือดที่มีหน้าที่กำจัดแบคทีเรียและเม็ดเลือดที่ผิดปกติ

- อาจเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำหรือหลอดเลือดแดง เนื่องจากโดยปกติ ม้ามเป็นที่กักเก็บเกล็ดเลือดจำนวนหนึ่งในสามของที่มีในร่างกายไว้ เมื่อตัดม้ามออก เกล็ดเลือดจะไม่ถูกเก็บไว้ที่ม้ามจึงอยู่ในกระแสเลือดเป็นจำนวนมาก ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำหรือหลอดเลือดแดงมากขึ้น

การตัดม้ามเป็นการรักษาที่ทำไม่น้อยในผู้ป่วยหลายโรค เนื่องจากมีผู้ป่วยโรคเลือดหลายรายจำเป็นต้องตัดม้ามออกเช่น ในโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงมีม้ามโตมากจนเกิดอาการแน่นหรือปวดท้องและม้ามทำงานมากเกินปกติ แล้วทำลายเม็ดเลือดทำให้ซีดมากหรือในโรคเกล็ดเลือดต่ำที่เรียก Immune thrombocytopenia (ITP) ที่รักษาด้วยยาแล้วไม่ได้ผล เกล็ดเลือดยังต่ำมากตลอดเวลาเป็นเวลานานจึงต้องตัดม้ามออก เพราะม้ามเป็นที่กำจัดเกล็ดเลือดของตนเอง
ส่วนของแฟนคุณมีปัญหาเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งคงมีเลือดออกที่ม้ามเพราะม้ามถูกกระแทกจนฉีกขาด การตัดม้ามออกช่วยให้จัดการปัญหาเลือดออกได้ นับว่าโชคดีที่แฟนคุณไม่มีปัญหากระทบกระแทกที่ตับและไตด้วย

ผู้ที่ตัดม้ามจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีแคปซูล แต่ในผู้ใหญ่อาจมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อแบคทีเรียนั้นแล้ว ปกติในเด็กโรคธาลัสซีเมียที่จะตัดม้าม เราจะรอเวลาให้เขาอายุ สัก 5-6 ขวบ ซึ่งหวังว่าร่างกายเขาจะมีโอกาสได้รับเชื้อโรคและมีการสร้างภูมิคุ้มกันไปแล้วและเราก็จะให้วัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส และฮิบ(Hib- Haemophilus influenzae type b) ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนตัดม้าม และแม้ว่าก่อนตัดม้ามไม่ได้ให้วัคซีนนี้ ก็สามารถให้ได้หลังตัดม้ามวันที่ 14 ไปแล้วเพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันหากได้รับเชื้อโรคนี้ จากข้อมูลที่เคยมีมาคนที่ตัดม้ามจากสาเหตุเพราะอุบัติเหตุโอกาสติดเชื้อต่ำกว่าในผู้ป่วยธาลัสซีเมียที่ตัดม้าม

2. หลังตัดม้ามหากยังไม่ได้วัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัสควรให้เสีย และให้ซ้ำอีก 5 ปี หรือให้ซ้ำทุก 5 ปี หากยังไม่เคยได้วัคซีนป้องกันเชื้อฮิบ (ซึ่งคาดว่าแฟนคุณยังไม่ได้รับ เพราะวัคซีนนี้ให้ในเด็กบ้านเราเมื่อไม่กี่ปีมานี้) ควรให้วัคซีนนี้สักครั้งหนึ่ง- ข้อมูลวัคซีนดังกล่าวอ้างตาม UpTodate (cited February 3,2013)

อย่างไรก็ตามวัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัสไม่ได้ป้องกันเชื้อตระกูลนี้ทั้งหมด และการติดเชื้อแบคทีเรียหลังการตัดม้ามมีเชื้ออื่นๆเกี่ยวข้องอีกหลายตัว หมอจะให้คนไข้ของหมอพกยาAmoxicillinติดบ้านไว้ ถ้าแพ้ยานี้ให้ Erythromycin เมื่อมีไข้ให้รีบกินยาแล้วรีบไปพบแพทย์ จากการศึกษาติดตามใช้วิธีนี้ได้ผลดี
ส่วนการกินไม่มีของต้องห้าม

3. อาจมีการคิดเชื้อง่าย ควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปีละครั้ง ข้อมูลวัคซีนดังกล่าวอ้างตาม UpTodate (cited February 3,2013) สำหรับปัญหาเรื่องเกล็ดเลือดสูงอาจเจาะเลือดติดตามเป็นระยะ

ขอให้แฟนของคุณปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆและขอให้คุณทั้งสองแข็งแรงดีตลอดไปค่ะ

 

ศ.พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ

Benz*****e

4 กุมภาพันธ์ 2556 04:30:12 #3

ขอพระคุณคุณหมอ มากๆนะครับ ขอให้ผลบุญส่งกลับไปให้คุณหมอเเหละครอบครัวนะครับ