กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนมาไม่ปกติ กินยาปรับฮอร์โมนบ่อยๆ อันตรายมั้ยค่ะ?
Anonymous

23 สิงหาคม 2559 19:03:01 #1

คือประจำเดือนมา 2-3 เดือนครั้งตลอดเลยค่ะ เริ่มเป็นตั้งแต่อายุ 13-14 ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลยสักครั้ง เคยไปหาหมอสูติ หมอก็ให้ยาปรับฮอร์โมนมาทาน ประจำเดือนก็มาปกติได้แค่ 2 เดือนค่ะ จากนั้นก็เหมือนเดิมคือหายไป 2-3เดือนจะมาครั้งนึง ถ้าเมื่อไรเกิน 3 เดือนยังไม่มาก็จะไปหาหมอตลอดค่ะ ตอนนี้รวมๆแล้วเคยกินยาปรับฮอร์โมนไปทั้งหมด 3 ครั้ง อยากทราบว่าถ้าเราทานยาปรับโฮร์โมนบ่อยๆเพื่อให้ประจำเดือนมามันจะอันตรายมั้ยค่ะ ? แล้วถ้าเรากินติดต่อกันเลยทุกเดือนจะได้มั้ยค่ะ ? นอกจากไปหาหมอแล้วเคยปรึกษากับเภสัชค่ะ เภสัชแนะนำให้ทานยาคุมแทนเพื่อปรับฮอร์โมน (แค่ปรึกษานะคะ ยังไม่เคยกินยาคุม) แล้วในกรณีทานยาคุม ถ้าเรายังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ไม่ได้ต้องการคุมกำเนิด การทานยาคุมจะเพื่อให้ประจำเดือนมาจะดีกว่าการทานฮอร์โมนมั้ยค่ะ ? **อีกคำถามนึกคือ อาการแบบนี้เกี่ยวกับพันธุกรรมมั้ยค่ะ พอดีตอนน้าวัยรุ่นก็เป็นเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้น้ามีลูกแล้วคุณหมอตอบหนูหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.43 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

26 สิงหาคม 2559 05:10:13 #2

สาเหตุที่คุณมีรอบเดือนมาไม่ปกติหรือไม่ค่อยมามักจะเกิดจากการตกไข่ที่ไม่ปกติ เช่น ไม่มีไข่ตกหรือเป็นกลุ่มอาการถุงน้ำที่รังไข่ ซึ่งผิวรังไข่จะมีความหนาตัวมาก ทำให้ไข่ตกไม่ได้ เมื่อไม่มีไข่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์ดมนโปรเจสโตรเจนมาเปลี่ยนผนังเยื่อบุโพรงมดลูกให้สุกและลอกหลุดออกมาเป็นประจำเดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจะมีความหนาตัวมากเกินไป ถ้ารอบเดือนไม่มาเกิน 3 เดือน อาจจะมีความเสี่ยงต่อมะเร็งผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้ จึงควรทานฮอร์โมนเพื่อให้รอบเดือนมา ฮอร์โมนที่ใช้จะคือฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนหรือยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง 2 ชนิด การรักษาด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนจะทานเพียง 10-12 วัน เพื่อควบคุมรอบเดือน แต่การทานยาเม็ดคุมกำเนิดจะช่วยในการรักษาภาวะอื่นด้วย เช่น สิว หน้ามัน ขนดก หรือภาวะที่มีฮอร์โมนแอนโดรเจนสูงกว่าปกติ ซึ่งพบในสตรีที่มีภาวะกลุ่มอาการถุงน้ำที่รังไข่หรือ PCOS (polycystic ovarian syndrome) สตรีกลุ่มนี้จะมีปัญหาเรื่องการตกไข่เช่นกัน และทำให้ไม่มีรอบเดือนเพราะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสโตรเจน คุณสามารถปรึกษาแพทย์เพือ่รับการรักษาได้ค่ะ การทานฮอร์โมนดังกล่าวไม่มีอันตรายค่ะ และไม่เกี่ยวกับพันธุกรรม แต่ถ้าเป็น PCOS จะสัมพันธ์กับภาวะมีบุตรยากได้ ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอัลตราซาวด์ประเมินรังไข่ได้ค่ะ