กระดานสุขภาพ

ช่วยด้วยครับหมอ ผมเครียดมาก กับอาการป่วยคนที่บ้าน
Nadt*****z

20 สิงหาคม 2559 04:40:06 #1

สวัสดีครับผม ถ้าผมจะขอปรึกษาเรื่องโรค ของคนที่บ้านครับจะได้ไหม คือเค้าเป็นธาลัสซีเมีย ถ่ายเลือดเป็นบางครั้งที่มีอาการเหนื่อย และเป็นตับอักเสปซี ตอนนี้ตับทำงานไม่ถึง 100% หมอที่รักษาตอนนี้ก็ให้กินแต่ยารักษาอากา เค้าบอกว่าเค้าเป็นมะเร็งระยะแรก ผมควรทำยังไงดีครับ

เค้าได้แต่พูดว่ารักษายังไงก็ไม่หาย เค้าต้องตายอย่างเดียว ชอบดื่อ ชอบตัดท้อตัวเอง ไม่ค่อยสนใจดูแลสุขภาพเท่าที่ควรเลย เวลาเครียดก็อาการสุดอีก ผมเคลียดมากเลยครับ ผมไม่รู้จะทำยังไง

ผมอยากรู้แค่ว่าอาการที่ผมเหล่าให้ฟัง น่าจะอยู่ขั้นไหนแล้ว ขั้นตอนการรักษาต้องทำยังไง ระยะเวลาการรักษา ค่าใช้จ่ายประมานเท่าไหร่ คือตอนนี้ผมยังไม่มีครับ ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงเริ่มจากตรงไหน

อายุ: 30 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 58 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.38 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

25 สิงหาคม 2559 04:42:41 #2

อาการที่คนไข้กำลังเป็นอยู่คือ "อาการของคนที่รู้สึกว่าตนเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับความเจ็บป่วยร้ายแรงและคุกคามต่อการมีชีวิตอยู่ของเขา"

แม้โรคที่เป็นอยู่จะไม่ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต แต่สำหรับผู้ป่วยแล้ว เขาคิดว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ผู้ป่วยเหล่านี้จะมีอาการท้อแท้ อยากตาย ไม่ร่วมมือ ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป อารมณ์เสียง่าย เรียกร้องโน่นนี่ หงุดหงิดกับคนรอบข้าง

ทั้งหมดเป็นเพราะเขากลัวครับ และอาการที่แสดงออกมามันคือการพยายามบอกคนอื่นว่าเขากลัวตาย อยากให้เราช่วย อยากให้เรา "เข้าใจสภาพที่เขากำลังเผชิญอยู่" แต่วิธีการสื่อสารของเขามันทำให้คนรอบข้างนอกจากจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพยายามบอกแล้ว ยังพลอยหงุดหงิดไปด้วยอีกต่างหาก

นี่คือธรรมชาติของคนที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับความตายทุกคน(แม้ในความเป็นจริงโรคที่เป็นอยู่อาจจะไม่ร้ายแรงขนาดนั้นก็ตาม) และอาการแบบนี้ก็จะสลับไปสลับมา บางวันก็ดูดี สงบ ยอมรับความจริงได้ แต่สักพักอาจกลับมากราดเกรี้ยว ตัดพ้อต่อว่า น้อยใจ อยากตาย ไม่ร่วมมือได้อีก อาการทั้งหมดจะดีขึ้นเมื่อเขาสามารถยอมรับสภาพการเจ็บป่วยของตัวเองได้

ถ้ามองให้ดีเขาน่าสงสารมากทีเดียว เพราะใครก็ตามที่กำลังอยู่ในสภาวะแบบนี้มันทุกข์ทรมานมากเลย เขาอยากให้เราช่วย ถ้าเราสามารถทำใจยอมรับความจริงของเขาในเรื่องนี้ได้ใจเราจะสงบครับ แล้วอาการเครียดของเราจะค่อย ๆ ลดลง

สิ่งที่ต้องทำคือ "ทำใจของเราให้ยอมรับสภาพของเขาให้ได้ก่อน" เขาทุกข์มากเกินกว่าที่เราจะไปหงุดหงิดกับเขา

เมื่อเราทำใจยอมรับสิ่งที่เขากำลังเป็นได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ "การรับฟังสิ่งที่เขาพูดระบายออกมาโดยไม่ต้องไปโต้แย้งหรืออธิบายอะไร" บอกเขาว่าเรารู้ว่าเขากลัว แต่เราก็จะอยู่ข้าง ๆ เขาเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การทำแบบนี้จะทำให้เขารู้สึกว่า "มีใครบางคนเข้าใจความรู้สึกของเขา" และมันจะทำให้เขาสงบลงได้ครับ แต่อยากที่บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าวันถัดไปอาการหงุดหงิดของเขาอาจจะกลับมาอีกได้ ถ้าเราสงบและยอมรับอาการของเขา เขาจะรู้สึกอุ่นใจและอาการหงุดหงิดของเขาจะค่อย ๆ ลดลง

ส่วนอาการเจ็บป่วยของเขานั้นไม่ว่าจะเป็นโรคเลือดหรือมะเร็ง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณหมอเขาเถอะครับ เพราะถึงเราจะอธิบายยังไงเขาก็ไม่รับฟังหรอก อธิบายมาก ๆ เขาอาจพาลเข้าใจผิดว่าเราหลอกเขาอีกจะยิ่งไปกันใหญ่ บอกกับเขาเพียงว่าเรื่องนี้คุณหมอดูแลอยู่ไว้ใจคุณหมอเถอะ

เอาใจช่วยนะครับ

นพ.อุดม เพชรสังหาร