กระดานสุขภาพ

เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบในช่วงถึงกำหนดประจำเดือนมา
Anonymous

19 สิงหาคม 2559 11:31:45 #1

สวัสดีค่ะ คุณหมอ เรียนสอบถาม ดังนี้ค่ะ ช่วงวันที่ 15 - 16 ส.ค. มีเหตุให้ต้องเดินทาง ไม่สะดวกในเรื่องเข้าห้องน้ำ คืนวันที่ 15 หลังจากเดินทางถึงที่พัก มีอาการปวดกระเพาะปัสสาวะเล็กน้อยเวลาฉี่ (ในระหว่างเดินทางฉี่ปกติ) วันที่ 16 เวลาฉี่มีเลือดออกมาติดทิชชู่เล็กน้อย ตอนเย็นเดินทางกลับปวดฉี่อย่างมากแต่ต้องอั้นฉี่ประมาณชั่วโมงกว่าเนื่องจากในระหว่างทางไม่มีปั๊มที่สามารถแวะไดเลย พอถึงปั๊มเป็นเวลาชม.กว่าที่อั้นฉี่ พอฉี่จึงฉี่หลายรอบเพราะรู้สึกว่าฉี่ไม่สุดสักที จนมีเลือดออกทุกครั้งที่ฉี่ รู้สึกปวดมากเวลาฉี่ เช้าวันที่ 17 ไปหาหมอที่รพ.หมอตรวจฉี่ และบอกว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้ยามากินและนัดตรวจปัสสาวะอีกห้าวันถัดไป ลืมบอกไปว่า ในวันนั้นได้ให้หมอตรวจปัสสาวะด้วยว่าตั้งครรภ์หรือไม่ ผลออกมาว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ กลับมาตรวจเองอีกครั้งวันที่ 18 (ตรวจช่วงบ่าย) ด้วยแผ่นทดสอบ ผลไม่ตั้งครรภ์ ดิฉันแต่งงานและปล่อยในตลอด เดือนนี้ถึงกำหนดประจำเดือนมาประมาณวันที่ 16-17 ส.ค. แต่วันนี้ (19 ส.ค.) เมนส์ยังไม่มา เวลาฉี่สุดบางครั้งนอกจากเลือดที่ออกเพราะกระเพาะปัสสาวะอักเสบแล้ว จะมีเลือดคล้ายเมนส์ติดทิชชู่ออกมา แต่ถ้าไม่ได้ฉี่จะไม่มีเลือดใดๆออกมา ดิฉันไม่กล้ากินยาที่หมอให้มาเนื่องจากกลัวว่าหากตั้งครรภ์จะมีผลต่อลูกในท้อง ตอนนี้อาการเลยยังไม่ทุเลาเลย(ดิฉันไม่มีอาการของคนท้องเลยนะคะ) รบกวนสอบถามหมอดังนี้ค่ะ 1.โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ส่งผลให้ประจำเดือนไม่มาหรือเปล่าคะ 2.ถ้าโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบไม่มีผลต่อประจำเดือน แล้วเหตุใดประจำเดือนยังไม่มา (ปกติรอบเดือนจะมาตรงค่ะ)
อายุ: 35 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 49 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.13 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

1 กันยายน 2559 09:29:56 #2

จากที่กล่าวมานั้น เป็นอาการของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะนะครับ ซึ่งปกติแล้วจะไม่เป็นสาเหตให้มีประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาไม่เป็นรอบนะครับ ซึ่งลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ