กระดานสุขภาพ
| มีตุ่มขึ้นที่ถุงอัณฑะ | |
|---|---|
|
4 สิงหาคม 2559 15:52:16 #1 ดิฉันมีสามีอายุ42ปี มีตุ่มขึ้นที่บบริเวณถุงอัณฑะประมาณ 4-5 เม็ด มีขนาดใหญ่ กลาง เล็ก แรกๆที่ตุ่มขึ้นจะเจ็บที่ตุ่มบ้างแต่พอนานๆไปตุ่มนั้นจะกลายเป็นสีคล้ำๆคล้ายหัวสิวและไม่เจ็บ แต่พอบีบก็ไม่มีหัวหรือน้ำใสๆออกมา ประกอบกับมีอาการคันตามตัวอยู่แล้วด้วย คันแบบไม่มีผื่น ทำให้เวลาคันจะคันมาก คันตรงช่วงอัณฑะใกล้ๆขาหนีบ และคันทุกส่วนทีมีผิวหนังค่ะ อาการคันและตุ่มขึ้นที่อัณฑะแบบนี้เป็นมานานหลายปีแล้วค่ะ อยากทราบว่าสามีของดิฉันเป็นโรคอะไรคะคุณหมอ รบกวนให้คำตอบด้วยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่า |
|
| อายุ: 23 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 49 กก. ส่วนสูง: 150ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.78 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
4 สิงหาคม 2559 16:17:36 #2 |
Anonymous |
4 สิงหาคม 2559 16:20:51 #3 http://www.uppic.org/share-4F1C_57A369FB.html][img]http://www.uppic.org/thumb-4F1C_57A369FB.jpg http://www.uppic.org/share-1E42_57A369FB.html][img]http://www.uppic.org/thumb-1E42_57A369FB.jpg http://www.uppic.org/share-B4D0_57A369FB.html][img]http://www.uppic.org/thumb-B4D0_57A369FB.jpg |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
6 สิงหาคม 2559 14:10:50 #4 ตุ่มที่เกิดขึ้นที่บริเวณลูกอัณฑะ อาจจะเกิดจาก 1. การอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคล้ายกับการเกิดสิว ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอน 2. ซีสต์หรือถุงน้ำหรือถุงไขมันใต้ผิวหนัง ถ้าไม่เจ็บ ไม่มีเลือดออกหรือไม่มีการอักเสบ ก็ไม่ต้องทำอะไร อาจจะยุบเองได้ แต่ถ้าใหญ่ขึ้น เจ็บ อักเสบ อาจจะต้องเลาะออก 3. โรคผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ เกา จนเป็นตุ่ม หรือโรคผิวหนังอื่นๆ ในกรณีของคุณ ดูจากรูป น่าจะเป็นซีสต์ของต่อมไขมันตามที่ได้บอกตามข้อ 2. แนะนำหาหมอ |
Anonymous