กระดานสุขภาพ

พบการผิดปกติที่ไตด้านซ้าย จากการทำ MRI
Moun*****e

25 มกราคม 2556 09:39:10 #1

23 ธ.ค. 55 ดิฉัน อายุ 37 ปี มีอาการเกี่ยวเนื่องกับไต ข้างซ้ายดังต่อไปนี้ มีดรคประจำตัว คือ เป็นไทรอยเป็นพิษมา 3 ปี แล้วค่ะ
1. ช่วงปี 52 ได้เข้าตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลเอกชน ที่พิษณุโลก เดือน ต.ค อัตราซาวร์ พบว่ามีอาการผิดปกติที่ไตด้านซ้าย คือ มีอาการบวมเล็กน้อย


2. ต่อมา ปี 53 มีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เดือน มกราคม เข้านอน รพ. วันที่ 11 - 24 และ ทำการฉีดสี เนื่องด้วยอาการเจ็บ และ ปวดท้องน้อยด้านซ้ายยังไม่ทะเลา ไปอันตราซาวร์ อีกครั้ง ยังพบว่า ไต ยังบวมอยู่ เข้าทำ MRI ปรากฏว่าพบ ถุงน้ำที่รังไข ข้างซ้าย และ ต่อมน้ำเหลือโต และกระจาย ในช่องท้อง การรักษา ผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลืองออก และ ตัดมดลูกออกทั้งหมด เข้าออก รพ. อีกหลายครั้งด้วยอาการ กระเพาะปัสาสวะอักเสบ


3. ในปี ปลายปี 54 พบอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ด้วยอาการไข้ และ ปวดหลัง ปวดปัสสาวะบ่อย ออกไม่หมด อีกครั้ง ปลายปี ประมาณ เดือน พ.ย. - ธ.ค. อันตราซาวร์ พบว่าไตยังมีอาการบวมอยุ่ ฉีดสี ตวงน้ำดื่ม และ ปัสสาวะ และ ทำการส่องกล้อง ฉีดยาฆ่าเชื้อ


4. ล่าสุด 22 พ.ย. - 4 ธ.ค. 55 เข้า นอน รพ. อีกครั้ง ด้วยอาการปวดหลัง ร้าวมาด้านหน้า ถึง ท้องน้อย ตัวบวม ปัสาสวะเหมือนไม่สุด ปวดร้าวที่ท่อปัสสาวะ มีไข้ขึั้นสูง ผลตรวจ มีการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ ฉีดสี อันตราซาวร์ เหมือเดิม คือ ไตบวม ที่เพิ่มมาคือ ท่ไตตีบ เพิ่มด้วย คุณหมอทางด้านยูโร ยังไม่แนะนำให้ทำการผ่าตัด บอกว่ามันตีบไม่มาก


5. วันที่ 14 ธค. เข้าตรวจอีกครั้ง ปวดหลังมาตลอด เอว ท้องเน้อย และ ปวด บริเวณด้านขวา เพิ่มมากขึ้น เข้าพบคุณหมออายุรกรรม ตรวจปัสาวะ ไม่พบการติดเชื้อ ส่งต่อที่คุณหมอศัรยกรรม ไปทำการ X-RAy ไม่พบการผิดปกติที่หลัง หรือ กระดูก มีปัญหา


6. ตั้งแต่ วันที่ 20 ธ.ค. เป็นต้นมา เริ่มปัสาสวะน้อยลง ทั้ง ๆ ที่ดื่มน้ำมากขึ้น ประมาณ 1 - 2 ลิตร ต่อวัน ปัสสาวะ น้อง ตั้งแต่ ต่ื่นนอน 06.00น. 1 ครั้ง 11.00 น. - 14.00 น. 1 ครั้ง และ ก่อนนอน 22.00 น. ครั้งสุดท้าย แต่ละครั้ง ประมาณ 500 CC มากกว่า หรือ น้อยกว่า บาง ครั้ง อาการปวดหลังยังเหมือนเดิม และ มีไข้ ช่วงบ่าย ทุกวัน อาการไข้ รุม ๆ และ ร้อน บริเวณ หลัง เอว ถึง ประเพาะปัสสาวะ บางครั้ง เจ็บจี๊ด ๆ เหมือนถูกเข็มแทง บางครั้งเหมือนมีอะไรขัด ๆ อยู่ข้างใน

16 ม.ค. 56 เคยเข้ามาปรึษา ครั้งนึงแล้วก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับเรื่อง อาการปวดหลัง สาเหตุเนื่องมาจากท่อไปตีบประมาณ ปลายปีที่ผ่านมา ครั้งล่าสุดตามคำแนะนำของคุณหมอ ทาง หาหมอ.com ไปครั้งนึงแล้ว และได้ไปตรวจปัสสาวะ กับ ตรวจเลือดเพิ่มที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ซึ่งหมอ ที่นั่นบอกว่า ผลปกติทุกอย่าง แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ อาการปวด มันเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และ ขยายวงกว้างขึ้น จากระดับเดิม อยู่ที่บริเวณเอวด้านซ้าย ร้าวมาด้านหน้า บริเวณท้องน้อย และ มีอาการ ตัวรุม ๆ ตลอดเวลา มีไข้ แต่วัดไม่ขึ้น
ตอนนี้อาการปวด ร้่้าวขึ้นมาถึงชายโครง เหมือนมีแท่งอะไรมากระทุ้งขึ้น และ เวลานั่งต้องยือตัวขึ้นและเอนตัวไปด้านหน้า ไม่อย่างนั้นจะปวด จนนั่่งไม่ได้ บางวันตื่นนอนตอนเช้า ยังไม่ได้ดื่มน้ำเพราะต้องการวัดประมาณปัสสาวะ คือ เข้าห้องน่ำบ่อย 3 - 4 รอบ ตั้งแต่่ 06.00 น. ถึง 12.00 น. ของวันนั้น
กลั้นปัสสาวะ เริ่มไม่ได้แล้ว วันที่ 15 มค. ที่ผ่านมา มีอาการท้องเสีย ร่วมด้วย โดยไม่ทราบสาเหตุ เพระาตอนเช้าถ่าย แล้ว ที่บ้าน 1 ครั้ง เวลา ประมาณ 06.30 น. แต่มาถ่ายอีกครั้งที่ Office เวลาประมาณ 11.00 น. , 14.00 น. และ 21.00 นง ลักษณะ ถ่ายเหลว เป็นมูก ทั้ง 3 ครั้ง แรงเบ่งมาก จนปวดร้าวที่หัว หน้ามืด แต่ก้หาย ไปเฉย ๆ พอจะไปหาหมอ


วันนี้ (16 มค.) มีอาการปวดตามข้างต้น หนังตาตึง แขน ขา ตึง ปวดร้าว บีบปล่อย ตลอดเวลา ในบางครั้ง หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก เวลานอน ต้องนอนตะแคง ด้านขวา ตอนนี้เริ่มนอนไม่ได้แล้ว เพราะปวด ทั้ง 2 ข้าง

วันที่ 17 ม.ค. ขับรถเดินทางไป กทม.  เช้าวันที่ 18  ตื่นนอนแล้วลุกเดินไม่ได้ ไประมาณ 10-20 นาที เนื่องจาก เจ็บบริเวณ ปลายท่อปัสสาวะ  คล้ายมีเหล็กมาคีบไว้ และ เจ็บ เข้าไปที่กระเพาะปัสสาวะ เหมือนมีอะไร มาแทงข้างใน เป็น อยู่ 2 วัน อาการปวดหลัง ปวดมาก 

19 ม.ค. 56 ขับรถเดินทางกลับ พิษณุโลก  เข้า รพ.อีกครั้ง  ด้วยอาการปวดหลัง มากขึ้น และ เวลา ขับปัสสาวะ เจ็บที่ท่อปัสสาวะ และ กระเพาะปัสสาวะมาก   วัดไข้ไม่มีึไข้ แต่ ตัวร้อน และ ร้อนไข หายใจออกมาร้อน ริมฝีปากแห้ง และ แดง   ทำการตรวจด้วยอัตราซาวร์ และ ทำการ MRI  ผลปรากฎว่า พบความผิดปกติที่ไตข้างซ้าย บวม  ท่อไตตีบ  เส้นเลือด พันอ้อมไต  ต่อมน้ำเหลือโต (ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะผ่าออกไปก่อนหน้านี้ แล้ว วันที่ 11  ม.ค. 53) แต่ไม่มีก้อนเน้ื้อ    การรักษาที่ทำอยู่คือ  ให้ทานยาแก้ปวดเมื่อมีอาการปวด และ ตอนนี้ มีอาการกระเพาะอาหารอักเสบร่วมด้วย จากการกินยา ดังต่อไปนี้

1. CeleBrex 400 mg.  2. Prevacid FDT 300  mg.  3. Librax (5/2.5 mg)

ขอถามดังต่อไปนี้ค่ะ     1.    โอกาสที่  ต่อมน้ำเหลือจะกลายเป็นเนื้อร้าย มีมากแค่ไหน

                             2.    วิธีการดูแล จะต้องทำอย่างไรบ้าง

                             3.    กินยาแก้ปวดมาก ๆ  มีโอกาส เป็นไตวายเรื้อรังได้ไหม

                             4.    มีวิธีการรักษาแบบไหนบ้าง ที่ไม่ต้องผ่าตัด  หรือ ผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลือง  โดยไม่ กระทบกับเส้นเลือด 

 

                             กลุ้มใจมากค่ะ กับ อาการปวดหลัง และ อาการร้อนข้างใน แต่ไม่มีไข้  ตลอด และ ทรมารมากค่ะ  ขอบพระคุณค่ะ กับคำแนะนำ จากทุก ๆ ท่าน

 

อายุ: 38 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 84 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 34.96 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์)

25 มกราคม 2556 11:10:48 #2

คุณช่วยตอบกลับมาด้วยคะว่า ที่คุณผ่าตัดรังไข่และพบมีโรคกระจายไปต่อมน้ำเหลืองแล้ว แพทย์แจ้งคุณว่า คุณเป็นโรคอะไร เพราะเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะช่วยการวินิจฉัยหาสาเหตุอาการปวดหลังของคุณ

 

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

Moun*****e

26 มกราคม 2556 06:40:53 #3

ตอบกลับค่ะ  

1.  เมื่อปี 2538  แต่งงาน และตั้งวครรถ์ ได้ 6 สัปดาห์ เกิดอาการแท้ง เนื่องจาก มัช๊อกโกแลตซีด  ที่รังไข่ด้านขวา ทำการผ่าตัดเลาะออก

2.  เดือน ตุลาคม 2552  ตรวจสุขภาพประจำปี  การบวมของไตด้านซ้ายแต่ไม่มาก

3.  ธันวาคม เริ่มมีอาการปวดท้องน้อย ด้านซ้าย  มีไข้ ตัวรุมตลอด  ปวดหลังด้านซ้าย บริเวณเอว

4.  10 มกราคม  2553  เข้า รพ. ด้วยอาการ ปวดหลัง ปัสสาวะอักเสบ

    4.1  ทำการอัตราซาวร์ ตรวจภายใน

    4.2  ทำการ X-ray  ด้วยการฉีดสี พบการอุดตันของท่อปัสสาวะ

    4.3 มีอาการปวดท้อง ร่วม ด้วยการปวดหลัง  ไม่พบการผิกปติของมดลูก  คลำบริเวร ท้องน้อย ช่วงสะโพก พบว่าบริเวณนั้นบวม  ทำการ ฉีดสี และ ทำ MRI   พบ ถุงน้ำที่รังไข่  ต่อมน้ำเหลืองโต และ กระจาย ในช่องท้อง มีพังพืด จากการผ่าตัด เมื่อ ปี 2538 และ ทำการผ่าตัดมดลูกออกทั้งหมด พร้อมต่อมน้ำเหลือ และ  นำชิ้นเนื้อไป ตรวจหาเชื้อ มะเร็ง  ผลตรวจชิ้นเนื้อ  ไม่พบ มะเร็ง  

5.  ต่อมา ปี 2554 เข้า - ออก รพ. อีก ด้วยอาการ กระเพาะปัสสาวะ อักเสบ  ปัสสาวะ ไม่ออก หรือ ออกมากเกิน เข้าห้องน้ำบ่อย พบการติดเชื้อ ทำการส่องกล้อง  ฉีดสี ดูการทำงานของไต และ ตวงน้ำดื่ม ตวงปัสสาวะที่ออกมา

6.  พ.ย. - ธ.ค. 2555  เข้า รพ.อีกครั้งด้วยอาการปวด หลังอีกครั้ง X- Ray ฉีดสี ฉีดยาฆ่าเชื้อ กระเพาปัสาสวะอักเสบ อยู่ รพ. 13  วัน

7.  19 - 24  ม.ค. เข้า รพ. อีกครั้ง ด้วยอาการปวดหลัง ร้าวขึ้นมาถึงชายโครง ทำการ อัตรซาวร์ พบการบวมที่ไตซ้ายเพิ่มขึ้น แต่ ไม่มาก ท่อไตตีบ  MRI พบอาการบวมของไต ต่อมน้ำเหลืองโต 

   ตอนนี้มีผลการรักษา เกี่ยวกับไตบวม ตั้งแต่ ปี 2554 - 2555  พร้อมฟิมส์  x-ray ผลการรักษาค่ะ

หากคุณหมอต้องการดิฉันจะจัดส่งให้คุณหมอ หรือ เข้าพบได้เลยค่ะ  มีอีกเรื่องค่ะ ไม่ทราบว่าถ้าดิแันต้องกำลังกายไม่ทราบว่าเต้นแอร์โรบิคได้ไหมค่ะ โดยที่ใช้ท่าง่าย ๆ เพื่อไม่ให้มีอาการปวดหลัง มากกว่าเดิมค่ะ

     ขอขอบพระคุณ คุณหมอเป็นอย่างสูงค่ะ ที่ติดตามและ เอาใจใส่ 

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์)

27 มกราคม 2556 04:50:46 #4

ขอตอบรวมกันทั้งหมด ดังนี้คะ

อาการปวดหลังและอาการทั้งหมดที่คุณเล่ามา น่ามีสาเหตุสัมพันธ์กับไตบวม ท่อไตตีบ และการมีต่อมน้ำเหลืองในท้องโต ซึ่งถ้ารักษาแก้ไขสาเหตุเหล่านี้ได้ อาการปวดของคุณน่าจะดีขึ้น

แต่สาเหตุใดที่ทำให้ ท่อไตตีบ ไตบวมและต่อมน้ำเหลืองในท้องโต รวมทั้งวิธีรักษาและวิธีการในการออกกำลังกายของคุณ คุณควรต้องปรึกษาสอบถามจากแพทย์ผู้ให้การดูแลรักษาคุณ เพราะเป็นผู้ที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุด แพทย์ทางเว็บไม่สามารถอธิบายและแนะนำได้ เพราะโรคของคุณซับซ้อนเกินกว่าจะตอบโดยแพทย์ทางเว็บคะ

ในส่วนเรื่องยาแก้ปวดต่างๆก็เช่นเดียวกัน คุณควรปรึกษาแพทย์ที่รักษา เพราะแพทย์จะทราบข้อบ่งชี้การใช้ยาให้เหมาะสมกับโรคและอาการของคุณคะ

 

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์