กระดานสุขภาพ

ปวดจุกอัณฑะ
Anonymous

25 มิถุนายน 2559 15:11:17 #1

กระทู้ที่แล้ว คุณหมอไม่ได้ตอบ คงไม่เห็น

http://haamor.com/webboard/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B/29199/

 

จากที่เคยตั่งกระทู้ไว้ว่า

มีอาการปวดๆจุกๆหลังช่วยตัวเองเสร็จ ที่อัณฑะข้างขวา อาการปวดจุกขึ้นมาถึงช่วงท้องข้างขวาเหนืออวัยวะเพศ ไม่เจ็บ ไม่บวม

คุณหมอบอกว่าให้พักกิจกรรมทางเพศ2อาทิต ถ้าไม่เจ็บ ไม่บวม ก็ถือว่าปกติ

ผมก็งดกิจกรรมทางเพศ หากิจกรรมอย่างอื่นทำ ไม่ค่อยจับคลำอัณฑะ คือไม่ได้ไปสนใจเรื่องนี้เลย

อาการดีขึ้นเลื่อยๆ จนไม่รู้สึกปวดจุก แล้วครับ

 

แต่ประมาณช่วง อาทิตย์กว่าๆที่ผ่านมา อาการก็ดีขึ้นเลื่อยๆไม่ค่อยปวดหรือจุกแล้ว แต่มีอยู่วันนึง ผมปัสสาวะแสบนิดหน่อย พอปัสสาวะเสร็จมีเลือดออกมานิดเดียวครับ รู้สึกร้อนที่ปรายอวัยวะแปปนึงและก็หาย แต่เป็นแค่ครั้งเดียวนะครับ และก็ไม่ได้เป็นอีกเลยจนถึงปัจจุบัน ปัสสาวะตอนนี้ก็ปกติดีไม่แสบ ไม่มีเลือดออก

 

อยากทราบว่าที่ตอนปัสสาวะแล้วแสบ มีเลือดออกมาหน่อย จะเกี่ยวกับที่ปวดจุกอัณฑะหรือป่าว  

 

ตอนนี้ก็2อาทิตย์ตามที่คุณหมอบอก อาการก็หาย ปกติดีครับ

อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 57 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.72 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

28 มิถุนายน 2559 03:18:49 #2

อาการที่มีเลือดออกตอนปัสสาวะสุดและมีอาการปัสสาวะแสบ แสดงว่าอาจจะมีการอักเสบชองระบบทางเดินปัสสาวะ หรืออาจจะเป็นนิ่ว ในกรณีที่เกิดขึ้นหลังมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่นมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางร่วมกับมีหนองออกจากท่อปัสสาวะ ก็อาจจะเป็นโรคติดต่อ ที่พบได้บ่อย คือหนองในแท้ และหนองในเทียม หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไป หนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า แต่ถ้าม่มีความเสี่ยง ก็อาจจะเกิดจากการติดเชื้อทั่วไป โดยสรุป อาจจะมีการอักเสบของท่อปัสสาวะ แนะนำหาหมอระบบสืบพีนธ์และทางเดินปัสสาวะครับ