กระดานสุขภาพ

ผมหายจากการเป็นธารัสซีเมีย มาตั้งแต่ปี 51 อ้ะครับ อยากทราบว่าเป็นทหารได้หรือปล่าว
Phro*****t

15 เมษายน 2559 07:16:36 #1

ต่อจากกระทู้เดิมครับ

อายุ: 17 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 59 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.42 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศ. พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ

(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์และโลหิตวิทยา)

19 เมษายน 2559 14:55:39 #2

ตามกระทู้เดิมที่ถามหมอเรื่องการตัดม้ามกับการเป็นทหารหมอเข้าใจว่าคุณอาจเป็นโรคธาลัสซีเมีย ที่จำเป็นต้องตัดม้าม คุณถามต่อเนื่องมาอีกหมอจะทำลายความหวังของคุณมากไปหรือเปล่าคะ

หมอหมายความว่าความหวังหรือความฝันที่คุณเคยมี เคยเชื่อมาจะล่มสลายเสียในวันนี้หรือเปล่า ไม่ใช่ประเด็นเรื่องผิดหวังจากการไม่ได้เป็นทหารอย่างเดียวแต่จะเป็นประเด็นเกี่ยวกับโรคธาลัสซีเมียอีกค่ะ

คุณทำใจไว้บ้างหรือยังคะก่อนจะอ่านคำตอบต่อไปของหมอ คุณอาจจะเสียใจ

แต่หมอว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคุณในอนาคตนะคะหมอได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณว่าคุณหายจากโรคธาลัสซีเมียใน พ.ศ. 2551 ซึ่งขณะนั้นคุณอายุ 8 ปี หมอจึงอยากทำให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับโรคธาลัสซีเมียมากขึ้น

หวังว่าคำอธิบายของหมอคงไม่ทำให้คุณเศร้าเสียใจเกินไปถ้าคุณเป็นโรคธาลัสซีเมียจริง หมอหมายถึงว่าถ้าคุณได้ตรวจเลือดโดยละเอียดคือได้ตรวจชนิดของฮีโมโกลบินในเลือดและบอกว่าคุณเป็นโรคธาลัสซีเมีย โรคนี้เป็นโรคติดตัวคือเป็นโรคทางพันธุกรรมและมีอาการแตกต่างกันตั้งแต่อาการน้อยไม่ต้องรับเลือดก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างปกติจนถึงอาการมากต้องได้รับเลือดบ่อยๆจึงจะมีชีวิตอยู่ได้ แต่ดูจากความสูง คุณสูงถึง 170 ซม. หมอคิดว่าถ้าคุณเป็นโรคธาลัสซีเมียก็คงเป็นชนิดรุนแรงน้อยเกือบที่สุดค่ะจนคุณรู้สึกว่าโรคหายไปด้วยซ้ำ หมอคิดว่าคุณอาจเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดแอลฟ่า (ธาลัสซีเมียมีหลายชนิดชนิดที่พบบ่อยคือแอลฟ่าและเบต้า ขึ้นกับว่าความผิดปกติอยู่ที่ยีนแอลฟ่าหรือยีนเบต้าธาลัสซีเมียมีความผิดปกติที่ยีนที่ควบคุมการสร้างสายโกลบินที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบิน ในเม็ดเลือดแดง ผลของความผิดปกตินี้ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกเรื้อรังทำให้ผู้ป่วยมีอาการซีดเรื้อรัง) และคุณน่าจะเป็นธาลัสซีเมียชนิดย่อยที่เรียกว่าฮีโมโกลบินเอชร่วมกับฮีโมโกลบินคอนสแตนท์สปริง ซึ่งธาลัสซีเมียชนิดนี้จะมีอาการซีดเหลืองและตับม้ามโต ซึ่งหากเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดฮีโมโกลบินเอชธรรมดามักไม่มีตับม้ามโตอาจคลำตับม้ามได้เล็กน้อยที่ชายโครงด้านขวาและซ้าย ในกลุ่มฮีโมโกลบินเอชที่มีฮีโมโกลบินคอนสแตนท์สปริงร่วมด้วยผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ตัดม้ามแล้ว อาการจะดีขึ้นคือเกือบไม่มีอาการซีด เจริญเติบโตได้ปกติทำงานได้ปกติ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเข้าใจว่าหายจากโรคแล้ว แต่แท้จริงยังเป็นโรคธาลัสซีเมียอยู่และหากเมื่อใดเกิดภาวะติดเชื้ออาจทำให้มีการแตกของเม็ดเลือดแดงรุนแรงทำให้เกิดอาการซีดมาก อาจซีดมากจนหัวใจวายได้หมอเข้าใจว่าคุณได้ตัดม้ามตั้งแต่อายุ 8 ขวบใช่ไหมคะ และคุณคงสบายดีมาตลอดซึ่งเป็นเรื่องดีนะคะที่คุณไม่มีอาการซีดและเติบโตได้ดีอย่างไรก็ตามข้อมูลปัจจุบันพบผลตามจากการตัดม้ามมาก ก่อนตัดม้ามจึงต้องพิจารณาว่าจำเป็นจริงๆจึงจะทำที่หมอบอกว่าโรคของคุณยังไม่หายและยังเป็นติดตัวไปตลอดเนื่องจากในปัจจุบันเราสามารถควบคุมป้องกันโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงได้ในตัวคุณมียีนหรือสารพันธุกรรมที่สามารถส่งต่อไปยังรุ่นลูกได้และผู้ที่มียีนผิดปกตินี้หากไปพบกับคู่สมรสที่มียีนชนิดเดียวกันนี้อาจมีความเสี่ยงในการมีบุตรเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงซึ่งอาจเสียชีวิตในครรภ์หรือหลังคลอดไม่กี่ชั่วโมงตัวทารกเองอาจไม่มีความทุกข์ทรมานเนื่องจากเขาเป็นโรครุนแรงที่ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ แต่มารดาของทารกกลุ่มนี้จะมีอาการแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์และการคลอดอาการอาจรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้

อย่าลืมนะคะที่หมอเขียนมานี้อนุมานจากการบอกเล่าของคุณเพราะจริงๆถ้าจะพูดเรื่องนี้หมอควรได้เห็นผลเลือดของคุณเสียก่อน แต่เนื่องจากข้อมูลที่คุณเล่าว่าคุณหายจากโรคธาลัสซีเมียทำให้หมอเกรงว่าคุณเข้าใจผิดและละเลยต่อการตรวจกรองเพื่อป้องกันโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงในอนาคต เพราะหมอพบผู้ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องธาลัสซีเมียอย่างถูกต้องและมีปัญหาในรุ่นลูกซึ่งน่าเสียดายโอกาสในการที่จะได้ตรวจกรองเพื่อป้องกันโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง

สำหรับเรื่องการเป็นทหารนั้น หมอเข้าใจว่าการที่คุณมีแผลเป็นร่องรอยจากการตัดม้ามอาจเป็นอุปสรรคในการเป็นทหารของคุณหรือเปล่า ลองดูค่ะ หากเป็นทหารในฝ่ายอื่นๆที่ไม่ต้องเสี่ยงต่อการ ติดเชื้อ เช่นไปทำหน้าที่เกี่ยวกับเอกสารก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ยกเว้นช่วงที่ต้องไปฝึกแบบสำบุกสำบันต้องระวังเป็นพิเศษเท่านั้นค่ะหมอเน้นนะคะคุณเป็นคนโชคดีค่ะถึงแม้จะเป็นโรคธาลัสซีเมียก็เป็นอย่างชนิดไม่รุนแรงและในปัจจุบันเรามีวิธีควบคุมป้องกันโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพหากคุณอยากเป็นทหารจริงๆ คุณเดินไปหาผู้เกี่ยวข้อง บอกความจำนงบอกข้อจำกัดของคุณและการจัดการเมื่อมีปัญหา คือรีบไปพบแพทย์ ทางการน่าจะอ้าแขนรับคุณนะคะ เพราะหมอมีลูกศิษย์แพทย์ที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย ชนิดเดียวกับที่เล่าให้คุณฟัง เรียนแพทย์ทำงาน อยู่เวรเหมือนคนอื่นเขามีธาตุเหล็กสะสมในร่างกายมากต้องให้ยาขับธาตุเหล็กร่วมด้วยแต่ศักยภาพของเขาไม่ด้อยไปกว่าคนอื่นเป็นติวเตอร์ให้เพื่อนปกติและได้รับการคัดเลือกชิงทุนสำคัญที่นักเรียนแพทย์ส่วนใหญ่ใฝ่ฝันด้วย

ขออวยพรให้มีความสุขและสุภาพแข็งแรงค่ะ

ศ.พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ