กระดานสุขภาพ

----กับผลทางการแพทย์, วิธีการดูแลร่างกายเพื่อให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ, โอกาสในการเกิดช็อกโกแลตซีสต์
Alis*****t

9 มกราคม 2556 17:25:13 #1

อยากทราบว่าพวกยาสรีทั้งหลายที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป มีผลดีผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

คือเป็นพวกประจำเดือนมาไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่ เลยมีคนแนะนำให้กินพวกยาสตรี จะได้ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ 

อย่างเมื่อเดือน พฤศจิกา ปริมาณประจำเดือนมาน้อยถึงน้อยมาก และมาแค่ 3-4 วันก็หมดแล้ว

แต่เมื่อเดือนธันวา ประจำเดือนมา 16 วัน แล้วก็มาเยอะในช่วง 13 ว้นแรก

โดยช่วงแรกของการมีประจำเดือน เลือดที่ออกมาจะเป็นสีแดงใส แต่ช่วงหลังๆจะเป็นก้อนสีค่อนข้างดำคล้ำ 

ก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นเลือดที่ค้างจากเมื่อเดือนที่แล้ว และไม่ได้มีอาการปวดท้องมากกว่าปกติ เลยยังไม่ได้ไปหาหมอ 

แต่ปกติ ประจำเดือนก็ไม่ค่อยจะปกติแบบนี้เป็นประจำอยู่ตลอด ควรจะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้ประจำเดือนมาให้เป็นปกติ 

 

ปกติ ออกกำลังกายโดยเข้าฟิตเนส ประมาณ 4-7 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละไม่ต่ำกว่า 45 นาที

ไม่ได้มีการคุมกำเนิดทุกประเภท (ไม่มีเพศสัมพันธ์)

ตรวจในครั้งสุดท้ายประมาณ 1 ปีที่แล้ว ไม่พบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก

ปกติอารมณ์ค่อนข้างแปรปรวน และมีความเครียดค่อนข้างสูง

ญาติ (น้องสาวคุณแม่ และลูกของ พี่สาว กับพี่ชาย คุณแม่) มีประวัติเป็น ช็อกโกแลตซีสต์ อยากถามว่าคนในครอบครัวมีโอกาสที่จะเป็นไหม

อายุ: 32 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.39 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

11 มกราคม 2556 10:05:34 #2

เรียน คุณ alisa.oat,

ขออนุญาตชี้แจงข้อมูลเรื่องยาสตรี เป็นกลาง ๆนะครับ เนื่องจากยามีหลายสูตร หลายตำรับ อย่างไรก็ตามคงต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านยาอีกครั้ง

ยาสตรีจัดเป็นยาแผนโบราณ ขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนโบราณ สรรพคุณที่ได้รับอนุญาต คือ บำรุงเลือด บำรุงร่างกาย เจริญอาหาร แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ และเป็นยาแทนการอยู่ไฟ ขับน้ำคาวปลา ช่วยฟอกโลหิต

ส่วนประกอบ

ยาสตรีส่วนใหญ่จะประกอบด้วยสมุนไพรขนิดต่างๆ ตามสูตรแต่โบราณดั้งเดิมมา แล้วแต่เจ้าไหนมีสูตรอะไร ส่วนประกอบของยาสตรี เช่น โกฏเชียง, โกฏหัวบัว, ตานเซียม, กิ่งอบเชย, บักดี้, และแอลกอฮอล์ ซึ่งเมื่อนำมาผสมกัน ตัวแอลกอฮอล์ก็จะสกัดเอาสารสำคัญชนิดหนึ่งออกมา เรียก phytoestrogen

Estrogen

เอสโตรเจน เป็นฮอร์โมนเพศหญิงซึ่งร่างกายเราผลิตจากรังไข่ รก หรือต่อมหมวกไต estradiol ซึ่งเป็นหนึ่งในเอสโตรเจนหลักๆ 3 ชนิดที่พบในร่างกายมนุษย์ ฮอร์โมนกลุ่มนี้มีผลโดยตรงต่อการแสดงลักษณะ ของเพศหญิง นับตั้งแต่การเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ มีประจำเดือน ตกไข่ ตั้งท้อง ไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน estradiol มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของเนื้อเยื่อปากมดลูก มดลูกและเต้านม (ไม่มีในตัวยาสตรีต่างๆ)

Phytoestrogen

Phytoestrogen เป็นสารอินทรีย์ซึ่งสร้างขึ้นโดยพืช แต่มีคุณสมบัติคล้ายกับเอสโตรเจน สารเหล่านี้พบได้ทั้งในส่วนเมล็ด ลำต้น รากหรือดอก โดยในพืช สารนี้จะทำหน้าที่เป็นสารฆ่า เชื้อรา (fungicide) หรือ phytoalexin นั่นคือเป็นสารเคมีที่พืชสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันตนเองเมื่อถูกรุกรานโดยจุลชีพ phytoestrogen จะมีบางส่วนของสูตรโครงสร้างคล้ายคลึงหรือเทียบได้กับ steroid nucleus ของ estradiol อันเป็นเอสโตรเจนที่พบในธรรมชาติหรือในร่างกายมนุษย์ ดังนั้นเมื่อเสพยาชนิดนี้แล้ว ก็จะมีผลในทางคล้ายผลของ estrogen ต่อร่างกาย จึงเป็นคำอธิบายว่าทำไมบางคนใช้ยานี้แล้ว ทำให้รอบเดือนมาได้

สูตรยาดังกล่าวมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เป็นยาแทนการอยู่ไฟ ช่วยขับน้ำคาวปลา ซึ่งตัวยาบางตัวในตำรับอาจจะมีผลต่อทารก ดังนั้นจึงมีคำเตือนไว้ที่ฉลากหรือเอกสารกำกับยาว่า "สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน"

ตำรับยาแผนโบราณที่ใช้สำหรับสตรี จะมีหลายตำรับ ซึ่งปรุงขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการใช้ที่แตกต่างกัน เช่น บางตำรับใช้สำหรับบำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต บางตำรับใช้สำหรับสตรีหลังคลอดบุตรรับประทานใช้แทนการอยู่ไฟ หรือบางตำรับใช้สำหรับสตรีที่มีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ

การใช้ยาขนานใดต้องใช้ให้ถูกต้องตรงกับอาการ ไม่เช่นนั้นอาจไม่ได้ผลในการรักษา ยาสตรีส่วนหนึ่งที่จำหน่ายในท้องตลาดจะทำในลักษณะยาน้ำ ซึ่งจะมีข้อบ่งใช้แตกต่างกันตามตำรับยาแต่ละขนาน

และเนื่องจากยาสำหรับสตรีส่วนมากจะมีตัวยาที่มีรสร้อนตามศาสตร์ของยาแผนไทย เช่น ขิง ดีปลี พริกไทย และบางตำรับก็อาจมีหัวเหล้าในสูตรตำรับด้วยเล็กน้อย จึงมักมีข้อควรระวังไม่ให้ใช้สำหรับสตรีตั้งครรภ์ ทำให้มีบางคนเข้าใจว่ายาเหล่านี้เป็นยาทำให้แท้งและนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องอย่างมาก

เพราะในทางตรงกันข้ามบางตำรับกลับเป็นยาบำรุงร่างกายหรือบำรุงโลหิต ไม่ได้เกี่ยวกับการขับทำให้แท้งแต่อย่างใด แต่ที่ต้องมีคำเตือนเพราะเกรงว่าตัวยาหรือหัวเหล้าที่มีอยู่ในตำรับยาอาจไปมีผลต่อทารกในครรภ์

สำหรับสตรีที่ตั้งครรภ์หากรับประทานเข้าไปมาก เช่น รับประทานเป็นขวดหรือหลายขวด อาจเป็นอันตรายถึงทำให้ทารกในครรภ์ิพิการได้ แต่ไม่สามารถขับออกจากร่างกายได้และยิ่งเป็นอันตรายอย่างมากสำหรับผู้ใช้ กรุณาอ่านคำเตือนในฉลากและใช้ยาอย่างระมัดระวัง

ยาสตรีไม่ใช่ยาทำแท้ง

ยังมีหลายคนเข้าใจผิดว่า ยาสตรีเป็นยาขับเลือด ความจริงยานี้ไม่ใช่ยาขับเลือด ไม่ใช่ยาทำแท้ง ถ้าท้องแล้ว กินจนเมาก็ไม่ออก

กินบ่อยๆ อันตรายไหม กินบ่อยๆ

ก็เหมือนคนกินเหล้า เพราะส่วนประกอบหลักของยานี้คือแอลกอฮอร์
มีกลุ่มคนชนบท(ชาย)หลายคนหันมาดื่มยานี้แทนดื่มเหล้า ถ้าใช้บ่อยๆก็อาจติดเหล้าได้

รอบเดือนไม่มา จะทำอย่างไร

รอบเดือนไม่มา มีสาเหตุต่างๆมากมาย หญิงในวัยเจริญพันธ์ (โดยเฉพาะสาวๆที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตร ) ถ้าไม่ท้อง ส่วนมากก็มักเป็นจากอารมณ์เครียด วิตกกังวล เมื่อเลือดไม่มา ก็มักจะกินยาสตรีเพื่อให้เลือดมา บางรายก็มา บางรายก็ไม่มา รายที่ไม่มา มาตรวจภายหลังว่าที่ไม่มานั้น เป็นจากการตั้งครรภ์ ก็มักจะมาถามหมอว่า จะเป็นไรกับเด็กในท้องไหม ถ้าท่านพร้อมจะมีบุตร รอบเดือนไม่มา ก็ไม่ควรใช้ยาใดๆโดยไม่ปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบัน

สรุปว่า หากคุณรับประทานแล้วไม่มีอาการแพ้ หรือผิดปกติใด ๆจะลองรับประทานก็ได้นะครับ แต่ไม่แนะนำให้รับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ (เช่น 3 เดือน 6 เดือน) เนื่องจากมีแอลกอฮอล์อาจเป็นอันตรายต่อตับได้ ส่วน phytoestrogen อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิด cyst ที่รังไข่ หรือ ที่เต้านมได้

ส่วนเรื่องวิธีการดูแลร่างกายเพื่อให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ, โอกาสในการเกิดช็อกโกแลตซีสต์ จะมีอาจารย์แพทย์สูตินรีแพทย์จากเว็บ haamor.com ของเราช่วยให้คำตอบเพิ่มเติมนะครับ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

11 มกราคม 2556 16:30:03 #3

ในส่วนของลักษณะอาการประจำเดือนมาผิดปกติ ไม่เป็นรอบ มาน้อยบ้าง มามากและนานบ้างนั้น มักมีสาเหตุจากมีภาวะบางอย่างรบกวนการทำงานของรังไข่ ที่ปกติจะสร้างฮอร์โมนที่ส่งผลต่อเยื่อบุโพรงมดลูกที่จะลอกสลายตัว เป็นเลือดประจำเดือนตามรอบ ยกตังอย่างเช่น

  1. ภาวะเครียด วิตกกังวล
  2. พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึก นอนน้อย
  3. น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก
  4. ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป
  5. ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน
  6. ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง (polycystic ovarian syndrome)
  7. ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยาสตรี ยาขับเลือด ยาสมุนไพร ต่างๆ เป็นต้นครับ

ซึ่งจากประวัติที่คุณกล่าวมานั้น ควรมาพบสูตินรีแพทย์ครับ เพื่อหาสาเหตุและอาจจำเป็นต้องได้รับยาปรับฮอร์โมนเพื่อควบคุมให้ประจำเดือนมาเป็นรอบ สัก 2-3 เดือนก่อนครับ

ในส่วนของยาสตรีต่างนั้น ทางคุณเภสัชกร ประติษฐ์ ได้ให้ข้อมูลอย่างดีมากแล้ว หมอขอเพื่ิมเติมเล็กน้อนครับ คือ ยาประเภทนี้ เป็นยาที่มีประโยชน์ครับ แต่การควบคุมปริมาณของสารทีี่ออกฤทธ์ิคล้ายฮอร์โมนที่ต้องการมารักษาอาการผิดปกตินั้น ทำได้ยากมาก ไม่สามารถทำให้คงที่ แน่นอนในแต่ละครั้งที่ทาน และยังมีความแตกต่างในด้านส่วนประกอบในแต่ละชนิดยาอีกด้วย ดังนั้น การที่จะนำมาเพื่อการรักษาอาการเลือดประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาใช้เพื่อควบคุมปรับรอบประจำเดือนนั้น ยังอาจนำมาใช้ค่อนข้างยากลำบากครับ อาจทำให้เลือดประจำเดือนมาผิดปกติได้ ส่งผลให้เลือดที่ออกผิดปกติอยู่แล้ว ยิ่งผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่า ผิดปกติจากสาเหตุอย่างไรกันแน่ครับ

ส่วนยาแผนปัจจุบัน เราสามารถควบคุมในเรื่องของปริมาณต่อเม็ด และไม่มีส่วนผสมอื่นที่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงอื่นๆ ดังนั้น อาจเป็นข้อได้เปรียบเล็กน้อย ที่เราสามารถนำยาที่เราสังเคราห์ฮอร์โมนมาใช้ในการปรับฮอร์โมนได้ เพราะ หมอสามารถกำหนดชนิดและปริมาณการใช้ในการรักษาได้ครับ

ส่วนตัวโรคช็อคโกแลตซีสหรือ Endometriosis นั้น ทางการแพทย์เชื่อว่า เกิดจากการไหลย้อนกลับของเลือดประจำเดือนที่มีเนื้อเยื่อของเยื่อบุโพรงมดลูก (endometrial cell) ไปยังอุ้งเชิงกราน แล้วไปฝังตัว เจริญต่อเป็นถุงน้ำต่อไปครับ ปกติแล้วสาเหตุทางพันธุกรรมนั้น ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานเพียงพอนะครับ ที่จะบอกว่าโรคนี้เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมครับ