กระดานสุขภาพ

มีตูมที่อวัยวะเพศ
Yoy*****y

26 กุมภาพันธ์ 2559 08:05:37 #1

หลังจากไปใช้บริการหนึ่งวันคือผมรู้สึกแสบทที่หัวอวัยวะเปิดดูพบว่ามีตูมขึ้นมาหนึ่งตูมเวลาเยี่ยวรู้สึกแสบไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรหรือปล่าวคือว่าวันนั้นที่ไปใช้บริการหลังเส็จน้องเขาใช้ผ้าเช็ดน้องชายของผมเช็ดเเรงจนรู้สึกแสบเป็นไปได้ไหมเป็นอาการของการระคายเคืองช่วยตอบผมด้วยครับผมผมไม่สบายใจเลยขอบคุณครับ
อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 69 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.30 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

8 มีนาคม 2559 15:43:05 #2

ถ้าใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์รวมทั้งการทำออรัลเซ็กส์ ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาการแสบที่อวัยวะเพศ อาจจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน แต่ถ้าไม่ได้ใช้ถุงยางถือว่ามีความสี่ยง เช่นอาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของเริม ซึ่งต่อมาจะมีตุ่มน้ำใส แตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ส่วนอาการปัสสาวะแบขัด ถ้าไม่ใช้ถุงยาง ก็อาจเป็นโรคติดต่อ ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรมเสี่ยง แนะนำหาหมอครับ