ลืมไปอีก1ข้อค่ะ คือ เจ็บบริเวณเต้านมมากเลยเวลาเอามือไปโดนก็จะเจ็บค่ะ เจ็บรอบๆเลยค่ะ

เรียน คุณ 5471e

ทางทีมงานขอชี้แจงเรื่องคำถามค่ะ
เนื่องจาก คุณ 5471e ได้ตั้งคำถามหลายข้อที่มีประเด็นแตกต่างกัน ซึ่งคำถามแต่ละข้อจะมีคุณหมอทั้งหมด 3 ท่านมาให้คำตอบ ดังนั้นคุณสามารถติดตามคำตอบได้จากกระทู้นี้เท่านั้นนะค่ะ

ตอบข้อ 2 และ 3

ขอตอบร่วมกันเพราะ น่าจะมาจากสาเหตุเดียวกัน คือ
ถ้าไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ (เพราะคุณเล่ามาว่า ประจำเดือนยังไม่มา ตั้งแต่ เดือน พย 55)
ก็อาจเป็นอาการของ โรคกรดไหลย้อน โรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคอาหารไม่ย่อย หรือ ปัญหาทางอารมณ์จิตใจ

คำแนะนำ: ถ้าคุณยังมีอาการต่อเนื่องนานตั้งแต่ 1 สัปดาห์ขึ้นไป ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยหาสาเหตุเพื่อการรักษาที่เหมาะสม แต่ถ้าอาการต่างๆเลวลง หรือส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ควรรีบพบแพทย์ ไม่จำเป็นต้องรอจนถึง 7 วัน โดยเป็นแพทย์ทั่วไปได้คะ

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

ตอบข้อ 1

สวัสดีครับน้อง อาการดังกล่าวที่เล่าให้ฟังนั้น คงบอกได้ยากว่ามีสาเหตุจากอะไร เพราะยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติม คือ ลักษณะการปวด (ปวดตุ๊บๆ, ปวดตื้อ, ปวดแปล๊บๆ, ปวดมากเวลาไหนบ้าง เช่น อ่านหนังสือ ดู TV เกี่ยวข้องกับการใช้สายตาหรือไม่) นอกจากอาการปวดตานั้นมีอาการปวดศีรษะหรือไม่ เวลาที่ปวดตามีตาแดง น้ำตาไหลหรือไม่ ระยะเวลาที่

ปวดแต่ละครั้งนานเท่าไหร่ สัมพันธ์กับการมีรอบเดือนหรือไม่

อย่างไรก็ตามสิ่งแรกที่ผมแนะนำ คือ น่าจะลองตรวจวัดสายตา เพราะอายุ 19 ปี สิ่งที่เราพบบ่อยที่สุด คือ ปัญหาสายตา ต่อมาที่พบได้บ่อยคือ ความล้าของการใช้สายตา ถ้ามีอาการอีกควรผ่อนคลาย นวดเบาๆบริเวณรอบตา และขมับ หน้าผากครับ ลองหลับตาสักครู่ด้วยครับ

ตอบข้อ 4

สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุของคุณวัยนี้ ที่ประจำเดือนไม่มาหรือมาช้า ไม่ตรงรอบ นั้น ต้องแยกการตั้งครรภ์ออกไปก่อนครับ ดังนั้น หากคุณ 5471e ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลย หรือมีแล้วป้องกันอย่างถูกต้อง เรื่องการตั้งครรภ์ก็ไม่ใช่สาเหตุครับ ส่วนสาเหตุอื่นๆ จะเป็นสาเหตุจากมีภาวะบางอย่างทำให้ไข่ไม่ตก ตามรอบที่ควรจะเป็น ทำให้มีผลต่อการลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก ที่จะออกมาเป็นเลือดประจำเดือน หมอขอกล่าวอย่างกว้างๆนะครับ เช่น

1. ภาวะเครียด วิตกกังวล
2. พักผ่อนไม่เพียงพอ
3. น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก
4. ออกกำลังกายมากๆ แบบหักโหม
5. ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน
6. ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ

ส่วนน้ำอัดลม ทานอาหารไม่ตรงเวลานั้น ไม่ใช่สาเหตุครับ

ดังนั้น หากคุณไม่มีความเสี่ยงของการตั้งครรภ์เลย หมอแนะนำให้รอสังเกตุอาการก่อนได้ครับ และหากไม่มีภาวะหรือภาวะต่างๆที่หมอกล่าวไปลดน้อยลง ประจำเดือนก็จะมาเองครับ และหากประจำเดือนไม่มารวม 2 เดือนแล้ว ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาครับ

ตอบข้อ 5

หากอาการเจ็บเต้านมนั้น เป็นทั้งสองข้าง มีลักษณะคัดตึงที่เต้านมนั้น เป็นผลจากฮอร์โมนที่มากในช่วงก่อนมีประจำเดือนครับ และหากมีอาการ เช่น อึดอัดท้อง ท้องอืด ปวดท้องน้อยคล้ายประจำเดือน คลื่นไส้ จุกเสียด ท้องเสียถ่ายเหลว ปวดเมื่อยตามร่่างกาย ปวดหลัง อารมณ์หงุดหงิด ร่วมด้วย อาการลักษณะแบบนี้ เป็นอาการของก่อนมีประจำเดือนครับ ดังนั้น หมอคิดว่า คุณ 5471e น่าจะมีประจำเดือนมาในไม่ช้านะครับ แต่หากไม่มีอาการอย่างที่หมอกล่าวไป อาจลองให้ประวัติอาการมาเพิ่มเติมก็ได้นะครับ