กระดานสุขภาพ

ลุ้น
Anonymous

6 ธันวาคม 2558 17:23:07 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ ประจำเดือน ตั้งแต่สิงหาตมถึงตุลาคมมาวันที่20ตลอดค่ะ ตรงบางเดือนก้อปวดท้องบ้างอะไรบ้าง พอเดือนพฤศจิกายนมาวันที่17และมาพอประมาณเพราะก่อนหน้านี้กินยา obimin คิดว่าตัวตั้งครรถ์เดือนพฤจิกายนมาสีแดงเข้มแล้วค่อยๆๆจางๆๆค่ะ เป็นเพราะยาที่ทานหรือปล่าว ปกติจะไม่ออกปริมาณพอดีขนาดนี้คือไม่เยอะำม่ท่วมผ้าอนามัยและไม่กระปริดกระปรอยที่ผ่านมาค่ะ เพราะที่ผ่านกระปริดกระปรอยเป็นหนืดๆๆ2-3วันแบบไม่เต็มผ้าอนามัยหรือยางครั้งบางวันไม่จำเป็นต้องใส่ค่ะ 2. หลังจาดนั้นก้อมีอาการมีม฿กใสๆๆเหนียวๆๆยืดๆๆค่ะและมีอาการปวดหัวบางวันเหมือนมีไข้ตอนปลายๆๆเดือนพฤจิกายน ระยะห่างจากเดือนตุลาคมถึงเดือน พฤศจิกายน 28วันค่ะ หลังจากนั้น..... หลังจาก....ก้อมีอาการตกขาวแบบสีเขียสหรือเปลี่ยนสีค่ะ ไม่คันไม่มีกลิ่นค่ะเป็รบางช่วงและบางวัน ค่ะ พอมาต้นเดือนคือวันที่1-2มีปวดท้องหน่วงๆๆค่ะคล้ายประจพเดือนแต่ปวดไม่ค่อยมาก พอมาวันนี้วันที่6/12/58 มีอาการเสียวๆๆที่บคิเวณท้องน้อยปวดแบบจุกเสียดที่ท้องน้อยค่ะ ปวดคล้ายประจำเดอนจะมาค่ะแต่ใส่แผ่นอนามัยไม่มีแเลยสอดดูเป็นคราบสีน้ำตาลๆๆหลังจากนั้นก้อหายอาการปวดท้องแบบนั้รเลยมีบางช่วงที่แปล๊บๆๆเสียวๆๆบางๆๆค่ะตกขาวแบบแป้งเปียงแกแห้งๆๆค่ะ มันคืออาการอะไรค่ะ ยังไม่ซื้อที่ตรวจครรภ์เลย เพราะไม่มีอาการเจ็บเต้านม แต่น้พหนักลดไม่มาก1กิโลเอง ลุ้นจัง
อายุ: 29 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 159ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.90 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

12 ธันวาคม 2558 15:04:33 #2

ลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ โดยอาการผิดปกติต่างๆนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยา obimin นะครับ

ส่วนหากไม่แน่ใจว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่นั้นและมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้ป้องกัน หมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยนะครับ ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ หรือ หากสับสนว่าจะตรวจช่วงไหนดี ก็อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ

ส่วนในเรื่องของอาการตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

นพ.เกียรติศักดิ์