กระดานสุขภาพ

การทาน โยเกิร์ต+น้ำผึ้ง+มะนาว+นมในตอนเช้า
Anonymous

8 ตุลาคม 2558 02:28:37 #1

การทาน น้ำผึ้ง+นม+โยเกิร์ต+มะนาว เป็นอันตรายต่อร่างกายไหมคะ อยากทราบข้อมูลที่แน่นอนค่ะ เพราะดิฉันหาและอ่านความคิดเห็นของบุคคลต่างๆที่นำประสบการณ์ตนเองมาแชร์ในบอร์ดพันทิพย์. บางคนว่าขับถ่ายดีขึ้นคล้ายเป็นการดีท็อก แต่บางคนกลับบอกว่าทานติดต่อกันมาเป็นปีสุดท้ายน้ำหนักขึ้น หรือที่ร้ายแรงสุดบอกว่าเป็นโรคลำไส้อักเสบ ทั้งนี้ดิฉันคิดว่ามันอาจจะมาจากพื้นฐานพฤติกรรมการทานอาหารของบุคคลนั้นๆด้วย แต่ที่ถามคำถามนี้ เพราะดิฉันเป็นคนถ่ายยากค่ะ [ดิฉันทานข้าวครบ3มื้อมีผัก/ผลไม้ทุกวัน ดื่มน้ำไม่ครบ8แก้วต่อวัน(เป็นผลให้ถ่ายยากด้วยรึเปล่าคะ)] แล้วไปเจอสูตรนี้ในเน็ตเลยมาลองทานดู ผลคือ ปกติ ไม่ได้ปวดท้องอึ หรือ จู๊ดๆเลยค่ะ แต่มันอร่อยดีเลยอยากทานไปเรื่อยๆ5555 แต่ก็ทั้งกลัวทั้งไม่มั่นใจถ้ามันส่งผลเสียให้ร่างกายมากกกว่าก็จะหยุดทานค่ะ. ขอคำแนะนำด้วยนะคะ☺️
อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.49 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
อาจารย์พีระพรรณ โพธิ์ทอง

นักวิชาการโภชนาการ

15 ตุลาคม 2558 14:51:41 #2

การเลือกกินทั้งโยเกิร์ต นมผสมน้ำผึ้งและมะนาว ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรท โปรตีน ไขมันและวิตามินต่างๆ หลากหลายชนิด

- ถ้าต้องการแคลเซียม ก็จะได้รับแคลเซียมสูงทั้งจากนมและโยเกิร์ตและมีวิตามินซี ความเป็นกรดจากน้ำมะนาวเป็นตัวช่วยให้การดูดซึมแคลเซียมมีประสิทธิภาพ มีน้ำผึ้งเป็นอาหารให้กับจุลินทรีย์ที่อยู่ในโยเกิร์ต

- ถ้าต้องการช่วยระบายก็ได้รับจุลินทรีย์ชนิดดีจากโยเกิร์ตซึ่งดีกับระบบลำไส้

แต่ในกรณีที่ท้องผูกประจำต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่จะมีส่วนในเรื่องของท้องผูกซึ่งได้แก่ เส้นใยอาหาร น้ำ และการเคลื่อนไหวของร่างกาย รวมทั้งมีการกินยาบางอย่างซึ่งจะมีผลทำให้ท้องผูกด้วยหรือไม่ ในกรณีนี้ทราบว่าดื่มน้ำน้อยเกินไปก็ควรแก้ไขโดยการดื่มน้ำเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 – 1.5 ลิตรต่อวันก็น่าจะช่วยให้อาการท้องผูกดีขึ้นได้

ขณะเดียวกันจะเห็นว่าทั้งโยเกิร์ต นม น้ำผึ้งต่างก็ให้พลังงานทั้งสิ้น ถ้ากินในปริมาณมากเกินไปใน แต่ละวันก็อาจทำให้น้ำหนักเกินได้ ปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวันจะเป็นตัวช่วยกำหนดว่า แต่ละคน แต่ละวัยควรได้รับเท่าไหร่จึงจะรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้ ซึ่งโดยทั่วไปควรกินนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมวันละ 2 แก้ว (แก้วละ 250 ซี.ซี ) ก็เพียงพอแล้ว

อาหารแต่ละชนิดล้วนแล้วแต่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ผู้บริโภคควรต้องรู้ก่อนว่าต้องการอะไรแล้วจึงศึกษาและเลือกกินเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง และต้องไม่ลืมว่าร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การกินอาหารแต่ละอย่างก็อาจมีผลกับแต่ละบุคคลไม่เหมือนกันเช่นเดียวกัน

ที่มา :

“มะนาวลดคลอเรสเตอรอลป้องกันโรคหลอดเลือด” หมอชาวบ้านเล่มที่ 345 ตุลาคม 2551.
“มหัศจรรย์โยเกิร์ต” อาหารต้านวัยต้านโรค:ศัลยา คงสมบูรณ์เวช, กรุงเทพฯ อมรินทร์สุขภาพ,2552.
“นมพระเอกหรือผู้ร้าย” หมอชาวบ้านเล่มที่ 398 มิถุนายน 2555.