กระดานสุขภาพ

เจ็บบริเวณทวาร
Phat*****n

3 กันยายน 2558 14:45:24 #1

จะมีอาการเจ็บตลอดเวลา และจะมีแผลตื้นๆ เจ็บๆแสบๆ ยิ่งโดนน้ำยิ่งแสบ เป็นมา 4 วันแล้วครับ
อายุ: 25 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.59 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

7 กันยายน 2558 14:25:21 #2

การที่มีอาการเป็นแผลที่บริเณทวารหนัก อาจจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับโรคติดต่อ เช่นเป็นชายรักร่วมเพศ มีเพศสัมพันธ์โดยมีการสอดใส่ทางทวารหนักและไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อโรคติดต่อ โรคติดต่อที่พบบ่อยคือ เริมซึ่งเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศหรือที่ทวารหนักที่พบบ่อยที่สุด เกิดจาการติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศหรือบริเวณทวารหนัก เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ส่วนอีกโรคที่พบบ่อยขึ้นในชายรักร่วมเพศ คือ แผลซิฟิลิส ซึ่งจะเป็นหลังมีความเสี่ยง 10-90 วัน จะเป็นแผลแข็ง ไม่เจ็บ รักษาโดยการฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็อาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของริดสีดวงทวาร ซึ่งอาจมีอาการท้องผูกบ่อย ทำให้อุจจาระแข็ง เาลาถ่ายอุจจาระ ทำให้เป็นแผลได้ โดยสรุป ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมเสี่ยงและลักษณะของแผล ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอหรือถ่ายรูปบริเวณที่เป็นและให้ข้อมูลทางเพศสัมพันธ์มาด้วย และถ้าเป็นชายรักร่วมเพศ ควจะตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิสเพราะมีการศึกษาพบว่า ในชายรักร่วมเพศมีการติดเชื้อทั้งสองโรคสูงกว่าชายทั่วไปหลายเท่า โดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง หรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจ

นพ.อนุพงศ์