กระดานสุขภาพ

ตุ่มใสๆคันๆที่แคมอวัยวะเพศ
Anonymous

17 กรกฎาคม 2558 17:22:12 #1

หมอคะ พอดีว่าหนูมีอาการคันที่บริเวณอวัยวะเพศอะค่ะ แล้วมีตุ่มใสๆอยู่ที่ตรงแคมิอะค่ะ แต่มีแค่ประมาณ 2-3 ตุ่มอะคะ พอหนูใส่ยา คาเนสเทน ปรากฎว่ามีอาการคันมากและแสบกว่าเดิมค่ะ พอหนูไปล้างด้วยน้ำสะอาด อาการคันก็ไม่ค่อยจะคันอะค่ะแต่มีอาการตกขาวร่วมด้วยนะคะ หนูอยากทราบว่าหนูจะเป็นโรคอะไรเปล่าคะ
อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 166ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.96 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

23 กรกฎาคม 2558 14:31:06 #2

ในเรื่องของตุ่มใสๆนั้น หากประวัติมีเพศสัมพันธ์มาก่อนโดยเฉพาะกับผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริม เป็นต้น ก็อาจเป็นโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ครับ หรือ หากไม่มีเพศสัมพันธ์ช่วงนี้ อาจเป็นผื่นจากการติดเชื้อรา หรือ การอักเสบของต่อมไขมันบริเวณนี้ครับ ส่วนในเรื่องของตกขาวนั้น เบื้องต้นแล้ว ตกขาวที่อาจมีได้ช่วงนี้ ก็เป็นผลจากฮอร์โมนที่สูงขึ้นหลังจากไข่ ซึ่งจะอยู่ในช่วงกลางรอบเดือนครับ และสามารถพบสารคัดหลั่งนี้มากขึ้นจนถึงช่วงใกล้ๆมีประจำเดือนได้ครับ แต่จะไม่มีอาการผิดปกติ เช่น คัน กลิ่นเหม็น หรือ เลือดปนครับ ซึ่งไม่ผิดปกตินะครับ ดังนั้น หมอแนะนำให้สังเกตุอาการไปก่อน แต่หากหากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ และ เรื่องตุ่มใสยังไม่ดีขึ้น ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ