กระดานสุขภาพ
| สอบถามผลการตรวจมะเร็งปากมดลูกค่ะ | |
|---|---|
|
25 มิถุนายน 2558 04:09:01 #1 ดิฉันเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 1 ได้ให้เคมี 4 ครั้ง พอให้เคมีครั้งที่ 1 ได้สองสัปดาห์ นึกได้ว่าปีนี้ยังไม่ได้ตรวจมะเร็งปากมดลูกก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้านค่ะผลออกมาดังนี้ค่ะ Atyical squamous cell 201 of undetemined signifleance(ASC-US) ขอเรียนถามว่าผลที่ออกมามีความร้ายแรงแค่ไหนค่ะ และมีแนวทางการรักษาอย่างไร จะเป็นมะเร็งปากมดลูกอีกมัยค่ะ ช้วยตอบด้วยนะค่ะเป็นกังวนค่ะเป็นเป็นมะเร็งเต้านมกลัวมันลามไปที่อื่นค่ะ ขอบคุณเป็นอย่างสูงค่ะ |
|
| อายุ: 44 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 57 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.12 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
25 มิถุนายน 2558 13:59:05 #2
ขอเล่าอาการต่ออีกนิดนะค่ะ ตอนนี้ให้ยาเคมีครบแล้วค่ะกำลังกินยา Nolvadex-D อาการข้างเคียงของยาคือทำให้ผนังมดลูกหนาขึ้น จะเป็นอัตรายรึเปล่าค่ะคุณหมอ มันจะลดลงเองหรือว่าจะหนาขึ้นเลื่อยๆค่ะ ควรจะตัดมดลูกออกดีมัยค่ะ เพราะตัวดิฉันเป็นเนื้องอกที่มดลูกด้วยนะค่ะ เป็นมานานมากแล้วค่ะเป็นมา13 ปีแล้วตรวจติดตามทุกปีแต่ไม่โตขึ้นและไม่มีอาการใดๆค่ะ ดิฉันตรวจมะเร็งปากมดลูกทุกปีไม่เคยขาดค่ะตรวจ HPV ครั้งสุดท้ายเมื่อปีที่แล้วผลออกมาว่าสามารถเว้นได้สามปีค่ะ จากที่เล่ามาคุณหมอว่าดืฉันจะเป็นมะเร็งปากมดลูกมัยค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะถ้าเขียนภาษาอังกฤษผิดหรือเล่าอาการแบบไม่เข้าใจ ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ
|
Anonymous |
25 มิถุนายน 2558 14:02:43 #3
แต่ผลของปีนี้เป็นตามที่เล่าครังแรกค่ะ ช่วยตอบด้วยนะค่ะกลุ่มใจมากค่ะ เพราะเป็นหลายโรคเหลือเกิน
|
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
30 มิถุนายน 2558 03:45:51 #4 จากผลตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกออกมาเป็น ASCUS นั้น หากตีความง่ายๆ คือ ลักษณะของเนื้อเยื่อปากมดลูกมีความเปลี่ยนไป แต่ยังไม่ถึงกับผิดปกติ หรือ เป็นมะเร็งนะครับ และ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก หรือ Pap smear นั้น เป็นการคัดกรองเท่านั้น ไมได้เป็นการวินิจฉัยเลยครับ ซึ่งหากพบความผิดปกติก็จึงไปทำการตัดชิ้นเนื้อ ตัดชิ้นเนื้อผ่านกล้องที่เรียกว่า colposcopy ขึ้นกับผลที่อ่านออกมา ซึ่ง ASCUS นั้น อาจมีวิธีการดูแลได้ตั้งแต่ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap smear) ซ้ำอีก 6 เดือน หรือ อาจตรวจหากเชื้อไวรัส HPV หรือ ไป colposcopy เพื่อตัดชื้นเนื้อก็ได้ในที่ๆมีเครื่องมือและมีสูตินรีแพทย์ที่ทำได้ครับ ตอบเพิ่มเติมครับ ในเรื่องของยาที่ทานคือ Nolvadex-D นั้น เป็นยาที่มีชื่อสามัญว่า Tamoxifen ครับ มีฤทธิ์ในการต้านฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่ให้ในกรณีที่พบว่ามะเร็งเต้านมนั้นมีตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีผลกระตุ้นทำให้เกิดมะเร็งเต้านม ซึ่งยาตัวนี้จะมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติได้ ส่งผมให้รอบประจำเดือนผิดปกติ มีเลือดออกผิดปกติ กะปริดกะปรอยได้ และ มีโอกาสที่จะทำให้เกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ (Endometrium cancer) โดยมีอัตราการเกิดประมาณ 2 รายใน 1000 รายที่ให้ยานี้ครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากไม่ได้วางแผนที่จะมีบุตรแล้ว และ ไม่มีข้อบ่งห้ามต้องผ่าตัด การผ่าตัดมดลูกออก ก็เป็นการป้องกันมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ครับ ทั้งนี้ หมอแนะนำให้ปรึกษากับคุณหมอที่ดูแลอยู่ทั้งสูตินรีแพทย์และแพทย์ที่รักษามะเร็งเต้านมด้วยนะครับ
|
Anonymous |
30 มิถุนายน 2558 12:47:08 #5 ขอถามต่ออีกนิดนะค่ะ ถ้าในกรณีของดิฉันถ้าตัดมดลูกควรจะตัดรังไข่ออกทั้งหมดหรือเอาออกข้างเดียวค่ะ อายุ 45 ปี และจะตัดแบบส่องกล้องได้มัยค่ะ ที่ไหนที่ทำได้บ้างค่ะ เกิดกลัวการผ่าตัดค่ะเพราะผ่าคลอดบุตรมาสองครั้ง และผ่าตัดเต้านมมา
กราบขอบคุณ คุณหมอเป็นอย่างสูงค่ะที่ให้ความสบายใจและคำแนะนำที่ดีๆค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ |
Anonymous