กระดานสุขภาพ

อาการผิวหนังช้าง่าย
Kiss*****n

9 ธันวาคม 2555 12:31:53 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ อยากจะเรียนปรึกษาคือว่าดิฉันมักจะมีรอยช้ำเหมือนมีเลือดออกใต้ผิวหนังค่อนข้างบ่อยค่ะ คือบางทีไปชนอะไรนิดหน่อยก็ช้ำแล้วแต่มักจะชอบเป็นที่ขา อย่างตอนนี้รู้สึกว่าหัวเข่าจะไปชนโต๊ะหรือคุกเข่านานๆก็เกิดเป็นจ้ำเลือดแดงๆม่วงๆใต้ผิวหนังขนาดประมาณปลายนิวชี้ แต่ไม่ขยายใหญ่ขึ้นนะคะ ขนาดเท่าเดิมมาสามสี่วันแล้ว

พอดีไปหาข้อมูลมาก็แอบตกใจเห็นว่าอาการแบบนี้มีทั้งจากเล้นเลือดฝอยไม่แข็งแรง โรคเกล็ดเลือดต่ำไปจนลูคิเมีย

เท่าที่อ่านดูอีกอาการที่เป็นคือชอบมีเลือดออกตอนแปรงฟันค่ะซึ่งหมอฟันบอกเหงือกอาจไม่แข็งแรง ส่วนเรื่องมีจุดแดงๆแบบยุงกัดนี่ไม่มีและอาการเกี่ยวกับประจำเดือนนั้นของดิฉันมานานมากค่ะแต่ก็น้อยมากซึ่งอันนี้มาจากโรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบแน่นอนเพราะไปตรวจมาแล้วตอนนี้ทานยารักษาอยู่ประจำเดือนก็ปกติค่ะ

อยากทราบว่าอาการแบบนี้ควรกังวลมั้ยค่ะ จะเป็นอะไรร้ายแรงรึป่าว ควรทำอย่างไรดีค่ะ ขอบคุณค่ะ

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.58 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Kiss*****n

9 ธันวาคม 2555 13:07:09 #2

ขอเพิ่มเติมอีกนิดนะคะว่าเวลามีแผลเลือดออก เลือดก็หยุดตามปกติไม่ได้หยุดยากอะไรค่ะ

Kiss*****n

9 ธันวาคม 2555 15:30:31 #3

อีกอย่างนึงคือเมื่อหลายเดือนมาแล้วเป็นจ้ำเขียวตรงแถวๆกระดูกสันหลังตรงกลางๆใกล้เอว มาถึงตอนนี้ยังเป็นรอยคล้ำๆอยู่เลยค่ะลองจับๆดูเหมือนผิวตรงนั้นมันลอกๆ คืองงว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงแล้วทำไมยังมีรอยอยู่ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับดิฉันนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์บ่อยๆแล้วพนักเก้าอี้ที่เป็นพลาสติกมันแข็งแล้วเกิดการกดทับรึป่าว เรียนคุณหมอพิจารณาด้วยค่ะ ขอโทษด้วยที่พิมพ์อันพอดีเพิ่งนึกได้ค่ะ

ศ. พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ

(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์และโลหิตวิทยา)

17 ธันวาคม 2555 14:30:17 #4

เลือดออกใต้ผิวหนัง เกิดได้จากหลายสาเหตุ หากพิมพ์คำว่า ecchymosis ซึ่งเป็นศัพท์ทางแพทย์ที่แปลว่าเลือดออกใต้ผิวหนังจะมีสาเหตุเป็นแถวยาวมาก แต่โดยสรุปสาเหตุที่ทำให้เลือดออกดังกล่าวเกิดจากหลักใหญ่คือ

1. ความผิดปกติของหลอดเลือด เช่นหลอดเลือดไม่แข็งแรงแต่สาเหตุนี้พบน้อย ส่วนใหญ่มักเกิดจากการถูกกระแทกแล้วมีเลือดออก

2. เกิดจากความผิดปกติของเกล็ดเลือด ทั้งผิดปกติที่จำนวนคือเกล็ดเลือดต่ำจากสาเหตุต่างๆมากมายมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลิวคีเมีย (Leukemia) ก็มีเกล็ดเลือดต่ำ เลือดออกจากเกล็ดเลือดต่ำมักจะเป็นจุดเลือดออก (Petechiae) ในมะเร็งเม็ดเลือดขาวอาจมีอาการอื่นๆร่วมด้วยได้ เช่นเหนื่อยเพลีย มีไข้ มีเลือดออก มีอาการปวดตามข้อ
ความผิดปกติของเกล็ดเลือดอีกกลุ่มหนึ่งคือ ผิดปกติที่การทำงานของเกล็ดเลือดโดยที่จำนวนเกล็ดเลือดไม่ต่ำซึ่งอาจเกิดจากการกินยาบางอย่างได้แก่แอสไพริน หรือการทำงานของเกล็ดเลือดผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุที่เรียกว่าAPDE (Acquired platelet dysfunction with eosinophilia) ซึ่งพบบ่อยในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ โดยมีอาการเลือดออกใต้ผิวหนังเป็นๆหายๆอาจเป็นอยู่นานถึง 2 ปีแต่ในที่สุดก็หายได้ เวลาตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์จะพบว่าเกล็ดเลือดตัวใหญ่และติดสีจาง บางคนมีการทำงานของเกล็ดเลือดผิดปกติโดยกำเนิด เป็นโรคทางกรรมพันธุ์ซึ่งจะมีอาการเลือดออกตั้งแต่เล็กๆ

3. ความผิดปกติที่ปัจจัยการแข็งตัวของเลือด(Coagulation factor) เกิดจากการสร้างปัจจัยการแข็งตัวของเลือดได้น้อยกว่าปกติจากสาเหตุทางพันธุกรรมเช่นในโรคฮีโมฟิเลีย หรือเกิดตามหลังโรคหรือการเจ็บป่วยที่มีผลต่อการสร้างปัจจัยการแข็งตัวของเลือดเช่นในโรคตับวาย แต่ลักษณะเลือดออกจากความผิดปกติที่ปัจจัยการแข็งตัวของเลือดมักไม่ใช่เลือดออกที่ผิวหนังตื้นๆและเป็นเพียงรอยเล็กๆ มักมีเลือดออกที่ส่วนผิวหนังลึกๆ เป็นบริเวณกว้าง หรือเลือดออกในข้อ หรือในกล้ามเนื้อ

4. เลือดออกเนื่องจากเนื้อเยื่อในชั้นนอกหลอดเลือดอ่อนแอหรือไม่แน่นเช่นผิวหนังคนแก่จะมีเลือดออกที่ผิวหนังเห็นเป็นรอยสีม่วงคล้ำหรือสีน้ำตาลขึ้นกับระยะเวลาที่เลือดออก

เมื่อเกือบ 30 ปีก่อนอาจารย์ที่สอนทางโรคเลือดในผู้ใหญ่ของหมอเล่าว่า ผู้หญิงโดยเฉพาะเวลาใกล้จะมีประจำเดือนจะมีเลือดออกใต้ผิวหนังและตรวจก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ แล้วจ้ำเลือดนั้นก็หายไป อาจารย์ท่านเรียกว่า Female ecchymosis หมอได้ใช้คำนี้เป็น Keyword เข้าไปหาไม่พบคำนี้ หาความเกี่ยวข้องของฮอร์โมนเกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือนที่จะทำให้เกิดเลือดออกใต้ผิวหนังก็ไม่พบ

ถามคุณหมอโรคเลือดผู้ใหญ่ในปัจจุบันก็ไม่มีคำว่า Female ecchymosis แล้วเข้าใจว่าในปัจจุบันสามารถหาสาเหตุได้เกือบหมดแล้ว

จากที่คุณเล่ามาดูเหมือนว่าจะเกิดจาการกระทบกระแทกเพราะเป็นหลังการชนหรือกระแทกแล้วก็เป็นแต่ตรงที่ถูกชนแถวขาและเข่า ไม่ได้เป็นบริเวณอื่น และจากที่คุณเล่าว่าประจำเดือนปกติแล้ว ไม่มีอาการเลือดหยุดยาก พวกที่มีเลือดออกผิดปกติมักจะเป็นบริเวณอื่นเช่นตามตัวและเกิดได้แม้ไม่ได้มีการกระทบกระแทก ลองสำรวจดูนะคะว่ามีเลือดออกตรงอื่นที่ไม่ได้ถูกกระแทกหรือไม่ หากไม่มีเลยก็เฉยๆไว้ก่อน รอตรงที่ถูกกระแทกหายมักจะหายใน 1 – 2 สัปดาห์ และหากไม่มีจ้ำเกิดใหม่โดยไม่มีการกระทบกระแทกไม่น่าวิตกค่ะแต่หากมีจ้ำเลือดเกิดใหม่อีกโดยไม่มีการกระทบกระแทกควรไปพบแพทย์ค่ะ

อีกคำถามหนึ่งเนื่องจาการกดทับอาจเกิดการอักเสบหรือระคายเคืองอาจมีผื่นออก หลังจากนั้นเกิดมีสีคล้ำ(Post inflammatory hyperpigmentation) และบริเวณผิวหนังชั้นหนังกำพร้าจะลอกเป็นขุย

ในเลือดออกใต้ผิวหนังจะอยู่ลึกลงไปจากหนังกำพร้าจะไม่ลอกเป็นขุย เว้นเสียแต่เป็นร่วมกันกับอาการแรก ผิวหนังสีน้ำตาลนี้จะใช้เวลานานกว่าจะหาย แต่ไม่มีอันตรายค่ะ

 

ศ.พญ.อรุณี เจตศรีสุภาพ

Kiss*****n

19 ธันวาคม 2555 06:33:18 #5

ขอบคุณสำหรับคำตอบมากๆค่ะคุณหมอ ตอนนี้รอบช้ำตรงหัวเข่าหายไปแล้วค่ะ ส่วนรอยคล้ำๆบริเวณหลังยังเป็นเหมือนเดิม แต่อาการผิวลอกไม่มี มีแต่รู้สึกว่าพอจับแล้วผิวบริเวณนั้นมันสากกว่าบริเวณอื่นแค่นั้นค่ะ อยากทราบว่าถ้าจะทายาแก้แผลเป็นเช่น ฮีรูดอยด์ ให้รอยคล้ำมันจางลงได้มั้ยค่ะหรือควรปล่อยไว้เฉยๆ เพราะดูวี่แววมันไม่ค่อยจะจางลงเลยค่ะ ขอบคึณอีกครั้งค่ะ

ศ. พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ

(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์และโลหิตวิทยา)

20 ธันวาคม 2555 06:29:26 #6

คุณkissingrainคะ หมอดีใจด้วยค่ะที่เรื่องเลือดออกใต้ผิวหนังหายแล้ว ส่วนเรื่องสีคลำ้ที่หลังจะใช้เวลานานค่ะ ทายาก็ไม่ช่วยค่ะ ไม่อันตราย ทำลืมๆไป นานๆดูสักครั้งนะคะ แต่อย่างไรก็เอาใจช่วยให้หายเร็วๆค่ะ

 

ศ.พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ

Kiss*****n

20 ธันวาคม 2555 13:02:50 #7

ขอบคุณมากๆเลยนะคะคุณหมอ