กระดานสุขภาพ

มีน้ำสีน้ำตาลอ่อนไม่มากค่ะ มันคืออะไรค่ะ
Gunn*****n

5 มีนาคม 2558 13:04:30 #1

คุณหมอค่ะ ประจำเดือนครั้งล่าสุดหมดไปเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ค่ะ หลังจากนั้น มีเพศสัมพันธ์ 2 ครั้ง โดยห่างจากกัน ประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งครั้งล่าสุด หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์กันปกติ ไม่ได้รุนแรงและเป็นไปตามปกติ ในวันถัดมาตรงกับวันที่ 2 มีนาคม 2558 มีน้ำเพียงเล็กน้อยพอเปื้อนชั้นในเท่านั้นเป็นสีน้ำตาลเข้มค่ะ โดยมาสองช่วง คือช่วงเช้ากับช่วงดึก จากนั้นในวันที่ 3 มีนาคม 2558 มีน้ำลักษณะดังกล่าวออกมาจากช่องคลอด โดยมีสีน้ำตาลอ่อนช้ำๆ ค่ะ พอเปื้อนชั้นใน โดยกลิ่นไม่ใช่กลิ่นเน่า และไม่ใช่กลิ่นเปรี้ยวค่ะ
อยากถามว่า 1 เป็นอาการต่อเนื่องจากเคสเบื้องต้นหรือไม่ค่ะ
2 และน้ำที่ออกมานั้น เรียกว่าอะไรค่ะ
3 ต้องพบเเพทย์เพื่อรักษาอาการอย่างไรบ้างค่ะ

อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 153ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.08 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

10 มีนาคม 2558 16:57:51 #2

โดยปกติแล้ว หลังจากมีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งออกมากได้เล็กน้อย หรือ ถ้าออกมามากจนคล้ายตกขาวนั้น อาจเป็นการติดเชื้อในช่องคลอดได้ครับ ซึ่งเบื้องต้นแล้ว ตกขาวที่อาจมีได้ช่วงนี้ ก็เป็นผลจากฮอร์โมนที่สูงขึ้นหลังจากไข่ ซึ่งจะอยู่ในช่วงกลางรอบเดือนครับ และสามารถพบสารคัดหลั่งนี้มากขึ้นจนถึงช่วงใกล้ๆมีประจำเดือนได้ครับ แต่จะไม่มีอาการผิดปกติ เช่น คัน กลิ่นเหม็น หรือ เลือดปนครับ ซึ่งไม่ผิดปกตินะครับ ดังนั้น หมอแนะนำให้สังเกตุอาการไปก่อน แต่หากหากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากมีความผิดปกติอยู่ หรือ สารคัดหลั่งนั้น ยังคงมีลักษณะเป็นตกขาวที่ยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ