กระดานสุขภาพ

อยากรู้เรื่องโรค
Anonymous

2 มีนาคม 2558 02:02:12 #1

ผมเป็นโรคกรดไหลย้อนได้เดือนนึงมีช่วงหนึ่งผมรู้สึกเครียดและกังวลหลายเรื่องจนนอนหลับหลับตื่นตื่นพอตื่นมารู้สึกหัวใจเต้นเร็วและหลังสอบเสร็จผมกลับบ้านนั่งเล่นเกมกับเพื่อนนานหลายชั่วโมงพอลุกไปนอนรู้สึกหัวใจเต้นเร็วหมอครับอยากรู้ว่าอาการเหล่านี้เกี่ยวกับอะไรครับแต่ตอนเดินเร็วออกกำลังกายก็ไม่เป็นอะไรมากถึงขั้นต้องหอบ พอวัดอัตราการเต้นหัวใจเวลานั่งอยู่ไม่เหนื่อยไม่เครียดอะไรได้ประมาณ85 แต่ไม่เกิน100อีกอย่างผมเป็นหวัดไอมากตอนกลางคืนจมูกตันผมเคยเจ็บบริเวณเหนือลิ้นปี่เล็กน้อยแต่ไม่บ่อยไม่มีอาการหอบครับผมไม่มีอาการเจ็บแน่นแน่นหน้าอกผมเดาว่าอาการหัวใจเต้นเร็วเวลาออกแรงมากขึ้นกับเหนื่อยง่ายมาจากการกังวล

ผมอยากรู้โรคกรดไหลย้อนหัวใจและผมอยากรู้ว่าโรควิตกกังวลโรควิตกกังวลถ้าเป็นแล้วสมองเราจะคิดจะกังวลไปเองโดยที่เราไม่รู้ตัวรึเปล่าครับแล้วหวัดเกี่ยวข้องกับเหนื่อยง่ายหรือเปล่าครับอาการของผมอันตรายหรือเปล่าตอบผมหน่อยนะครับคุณหมอผมอยากรู้ขอแบบเจาะลึกนะครับผมมเป็นเด็กขี้กังวลผมจะได้หายกังวล

 

อายุ: 12 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 61 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.07 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

2 มีนาคม 2558 02:44:55 #2

ตอบหน่อยครับ

Anonymous

2 มีนาคม 2558 02:45:42 #3

คุณหมอครับ

Anonymous

2 มีนาคม 2558 03:21:55 #4

ดัชนีมวลกายผมประมาณ25

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

3 มีนาคม 2558 14:11:49 #5

ความกังวล ทำให้เกิดอาการทุกอย่างตามที่คุณเล่ามาได้ทั้งหมด ถ้าจะให้อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นหายไป ก็ต้องเลิกกังวล เลิกคิด เลิกวิตกจริต

คุณเป็นคนชอบหยิบเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาปะติดปะต่อกัน แล้วก็ตีความเอาเองว่ามันจะทำให้เกิดโน่นเกิดนี่และเป็นอันตรายต่อตัวเอง(ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่)แล้วคุณก็เกิดความกลัวว่าจะเป็นไปตามที่คุณคิด เมื่อใจกลัว ร่างกายมันก็จะเกิดอาการตาม คุณก็เลยยิ่งกลัวมากยิ่งขึ้น

ทั้งหมดเกิดขึ้นจากความคิดของคุณเอง

ข้อแนะนำของผมก็คือ
1. ควบคุมตัวเองไม่ให้คิดตามแบบที่คุณเล่าและถามมาทั้งหมด เมื่อใดที่ความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เตือนตัวเอง และสลัดตัวเองให้หลุดออกจากความคิดนี้ให้ได้ เพราะความคิดเหล่านี้มันทำให้คุณเป็นกังวล
2. ก่อนนอนทุกวัน ฝึกการควบคุมลมหายใจเข้า-ออก ช้าๆ เพ่งความสนใจของตัวเองไปที่ลมหายใจที่กำลังไหลเข้าหรือออก ทำทุกวันวันละ 20 นาทีจนชำนาญ
3. เมื่อความคิดแบบเดิมมันโผล่ขึ้นมา เกิดอาการใจสั่น เครียด ให้ใช้วิธีการควบคุมลมหายใจที่ได้ฝึกไว้มาช่วย จนกว่าอาการใจสั่นจะหายไป
4. ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ และนอนให้พอเพียง

ทำตามนี้ดูครับ

นพ.อุดม เพชรสังหาร

Anonymous

3 มีนาคม 2558 14:48:22 #6

ผมจะปฏิบัติตามครับขอบคุณเป็นอย่างสูงครับที่ตอบปัญหาของผม =)

Anonymous

3 มีนาคม 2558 14:52:18 #7

ผมเริ่มมีอาการเหนื่อยง่ายน้อยลงถ้าผมมีความเครียดน้อยลงครับขอบคุณครับ

Anonymous

4 มีนาคม 2558 07:00:18 #8

โรคกรดไหลย้อนอาจทำให้เจ็บกลางอกได้รึเปล่าครับตอบหน่อยครับ

Anonymous

4 มีนาคม 2558 23:17:11 #9

ผมปวดใต้ชายโครงซ้ายกับลิ้นปี่นะครับลืมบอก

Anonymous

5 มีนาคม 2558 06:42:19 #10

คุณหมอครับตอบหน่อยครับ

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

5 มีนาคม 2558 07:08:55 #11

กรดไหลย้อนจะทำให้มีอาการจุกเสียดบริเวณหน้าอกได้ครับ
นพ.อุดม เพชรสังหาร

Anonymous

5 มีนาคม 2558 08:50:48 #12

เจ็บแปลบที่บริเวณหน้าอกซ้ายริมริมหน้าอกละครับไม่ใกล้กับตรงกลางละครับ

Anonymous

5 มีนาคม 2558 11:47:53 #13

ตอบคำถามผมหน่อยนะครับผมเป็นคนจู้จี้จุกจิกเป็นตั้งแต่เด็กเด็กน่าจะมีคำถามอีกพักหนึ่งครับ(คุยกับหมอแล้วสบายใจ)อย่าพึ่งเบื่อกับคำถามนะครับ

 

Anonymous

6 มีนาคม 2558 01:16:38 #14

คงไม่เป็นเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบนะครับเคยเห็นคนที่อายุน้อยเป็นแต่ผมเคยอ่านบทความในhaamorแล้วผมไม่มีปัจจัยเสี่ยงแต่มีโอกาสเป็นไหมครับ

Anonymous

6 มีนาคม 2558 02:12:41 #15

ที่ผมบอกไปว่าเจ็แปลบหน้าอกซ้ายบางทีก็เป็นข้างขวาครับน่าจะเกี่ยวกับแก๊สในท้องเยอะรึเปล่าครับเพราะช่วงนี้แน่นท้องบ่อยมาก

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

7 มีนาคม 2558 12:58:32 #16

ยืนยันอีกครั้งครับว่า สิ่งที่คุณถามมาทั้งหมดมีคำตอบอยู่ในการตอบคำถามครั้งแรกของผมหมดแล้ว คุณควรกลับไป "อ่านและพิจารณา" หลายๆ รอบ แล้วคุณจะมีคำตอบให้กับตัวเอง

Anonymous

7 มีนาคม 2558 15:02:02 #17

หมอครับช่วยตอบหน่อยครับ. 1. ผมแค่อยากรู้เรื่องโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบผมไม่ได้กังวล.  2.เพื่อนบ้านผมไม่ชอบและไม่ค่อยออกกำลังกายเป็นภูมิแพ้ง่ายติดเกมเหนื่อยง่ายมากเดินออกกำลังกายกับผมนิดเดียวก็เหนื่อยหอบด้วยถ้าผมชวนเขาออกกำลังกายประจำจะหายไหมครับเพราะว่าเขาเรียนว่ายนำ้กับผมว่ายได้ไม่มาก

 

ส่วนเรื่องเครียดของผมผมปรับเปลี่ยนแล้วครับมีอาการเล็กน้อยเป็นมาจากการสะสมผมว่าอาการนี้ต้องใช้เวลาอีกสักพักครับ

รู้สึกดีมากครับเวลาคุยกับหมอและทำวิธีของคุณหมอเวลาหมอตอบคำถามแล้วคลายกังวลได้เยอะครับช่วยผมหน่อยนะครับ

 

ขอบคุณครับ

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

9 มีนาคม 2558 18:38:32 #18

การใส่ใจเรื่องสุขภาพของตัวเองเป็นสิ่งที่ดี แต่การใส่ใจจนเกินไปจนกลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคนั้นโรคนี้ไปหมดมันจะนำความทุกข์ใจมาให้ เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองก็หวาดวิตกว่าตัวเองกำลังจะเป็นโรคนั้นโรคนี้ ความคิดแบบนี้จะทำให้การดำเนินชีวิตลำบากมาก เพราะมันจะกลัวไปหมดจนไม่กล้าที่จะทำะไรเลย

ตอนนี้คุณกำลังกลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคร้ายแรง ทั้งโรคหัวใจ โรคทางสมอง ความรู้สึกแบบนี้เลยทำให้คุณพยายามหาข้อมูลอยู่ตลอดเวลาว่าสิ่งที่กำลังเกิดกับคุณมันจะทำให้เป็นโรคนั้นโรคนี้อย่างที่คุณกลัวหรือไม่ ความคิดนี้จะยิ่งทำให้คุณกลัวมากขึ้น ถ้าคุณไม่สลัดความคิดนี้ออกให้ได้ คุณก็จะติดกับ และทุกข์ใจกับเรื่องสุขภาพของตัวเองไปตลอด แม้ผมจะอธิบายว่าโรคนั้นโรคนี้มันเป็นอย่างไร คุณเป็นแบบนั้นแบบนี้หรือไม่ คุณก็จะมีข้อสงสัยใหม่ขึ้นมาอีกอยู่ดี เพราะความกลัวว่าตัวเองจะป่วยยังอยู่กับคุณตลอด

ทางออกก็คือ "ต้องหยุดคิดว่าตัวเองจะป่วยให้ได้" ใช้ชีวิตตามปรกติ เรียนหนังสือ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายและพักผ่อนตามปรกติ แค่นี้มันก็ช่วยป้องกันไม่ให้คุณป่วยได้แล้ว

และการที่คุณอยากรู้เรื่องโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบนั้น ลองถามตัวเองก่อนว่า "เพราะอะไรคุณถึงอยากรู้ ลึกๆ แล้วคุณกำลังกลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคนี้อยู่หรือเปล่า"

ผมเข้าใจและเห็นใจในความกังวลของคุณ ทุกคนรักชีวิตของตัวเองครับ แต่บางทีวิธีการดูแลชีวิตดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยความกลัวว่าจะเป็นนั่นเป็นนี่ไปหมด มันก็สร้างความทุกข์ให้กับเราได้เหมือนกันนะครับ

นพ.อุดม เพชรสังหาร

Anonymous

14 มีนาคม 2558 13:47:46 #19

ทำไมตอนผมไม่เครียดถึงเหนื่อยง่ายครับมีผลมาจากการเคยเครียดติดต่อกันรึเปล่าครับ

Anonymous

24 มีนาคม 2558 11:02:50 #20

ตอบหน่อยค้าบ