จากที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคล้ายกับการเกิดสิว โดยปกติ ถ้าเป็นไม่มาก ร่างกายก็สามารถที่จะกำจัดเชื้อแบคทีเรียเองได้ ในกรณีของคุณที่บอกว่ามีอาการเจ็บ แต่ก็หายแล้ว เหลือเพียงตุ่ม ก็ไม่น่าจะมีการอักเสบเพิ่มเติม และไม่เกี่ยวกับการช่วยตัวเองแล้วไม่ได้ล้าง ส่วนใหญ่จะเกิดจากการแกะหรือการเกา แล้วมีการติดเชื้อจากเล็บมากกว่า ถ้าไม่แน่ใจหรือถ้าตุ่มเกิดอักเสบมากขึ้นเป็นหนอง แนะนำหาหมอผิวหนังหรือถ่ายรูปบริเวณที่เป็นมาให้ดูเพิ่มเติมก็ได้ครับ

ขอบคุณครับ ขอแทรกรูปหน่อยนะครับ เพื่อความมั่นใจ วันนี่ ( ๓๐ ม.ค.) ไม่มีอาการเจ็บใดๆแล้วครับ กดลงไปเหมือนจะเริ่มยุบไปนิดหน่อยครับ ส่งรูปมาให้คุณหมอดูเพื่อความมั่นใจครับ

ลิงค์ครับ ( ขออภัยด้วยนะครับหากรูปไม่สุภาพครับ )

เรียนถามคุณหมอเพิ่มเติมนะครับ

๑ใถ้ามันหายมันจะยุบไปเองใช่ไหมครับ

๒. ลักษณะดังกล่าวเขาเรียกว่าอาการของต่อมน้ำเหลืองโตหรือเปล่าครับ?? และคนทั่วไปก็สามารถเป็นได้ใช่ไหมครับ

ป.ล.ผมเคยไปใช้ปากให้กับผู้ชายคนนึง แต่ไม่มีการหลั่งในปากนะครับ ไปตรวจเลือดเมื่อตอนครบ ๓ เดือน ทั้ง HIV และ ซิฟิลิสปรากฏว่าผ่านหมดแล้ว มันไม่มีความเกี่ยวข้องกันใช่ไหมครับผม ) ขออภัยอีกครั้งหากคำถามไม่สุภาพครับ

ด้วยความเคารพครับ 

ขอบคุณคุณหมอมากๆนะครับ สรุปเป็นการอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังเหมือนกับการเป็นสิวใช่ไหมครับ ไม่ได้เกิดจากโรคติดต่อใดๆทั้งสิ้นใช่ไหมครับ 

มีการศึกษาโอกาสของการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ 1 ครั้ง จากมากไปน้อยดังนี้
ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางทวารหนัก 0.5%
หญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางช่องคลอด 0.1%
ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ทางทวารหนัก 0.065%
ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ช่องคลอด 0.05%
ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ 0.01% ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์0.005% อย่างไรก็ตามโอกาสจะเพิ่มขึนถ้าเป็นกามโรคหรือมีแผลด้วย ในกรณีของคุณได้มีการตรวจเลือดแล้ว ปกติทั้งเอดส์และซิฟิลิส ก็ไม่ติดเชื้อ แนะนำว่าให้ใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธุ์ รวมทั้งออรัลเซ็กส์ด้วย ส่วนเรื่องตุ่ม จะค่อยๆยุบเอง หรือเหลือเป็นไตเล็กๆได้ ไม่ใช่ต่อมน้ำเหลือง ไม่มีอันตรายครับ

ขอบพระคุณหมอมากๆครับ ^^