กระดานสุขภาพ

มีเลือดออกหลังจากมีประจำเดือน 2 สัปดาห์ เป็นอะไรค่ะ
Anonymous

17 มกราคม 2558 20:59:03 #1

สวัสดีคร่ะ พอดีเข้ามาหาข้อมูลทางเนต เลยอยากสอบถามอาการค่ะ

คือปกติประจำเดือนมาไม่ตรงกันเลยแต่ละเดือน เช่น มาวันที่ 15 พอเดือนหน้าจะเลื่อนขึ้นไป

วันที่ 20 กว่าๆค่ะ เป้นแบบนี้มาตลอดการเป๋นเมนค่ะ แต่ครังนี้เมนมาเมื่อวันที่ 27 ธค. 57

หมด วันที่ 1 มค. 58 ค่ะ จะมาประมาณ 5-7 วันจนหายสนิทค่ะ  แล้วพอวันที่ 15 มค.

มีเลือดสีน้ำตาลออกมาค่ะ ไม่เยอะค่ะ ไม่มีเพศสัมพันธ์ ไม่ได้ทานยาคุม( แต่ทานยาลดน้ำหนักมาได้สักพักนึงค่ะ

แต่ทานบ้างไม่ทานบ้างนะค่ะ) แต่ทานเหล้า เบียร์ค่ั ไม่มีอาการเจ็บที่ท้อง ไม่ปวดค่ะ ลองกดดูแล้ว เป้นมาได้ 3 วันแล้วค่ะ แต่เลือดออกมานิดหน่อยค่ะ

บางทีก้ไม่มีมาทั้งวันค่ะ จะมามีช่วงนอนค่ะ แต่ก้ออกมานิดเดียว ไปฉี่ก้ไม่มีค่ะ แต่ใช้ทิชชู่ซับแล้วเห็นอยู่นิดๆค่ะ ไม่มราบว่าเกิดจากอะไรค่ะ

แล้วจะมีอันตราย เสี่ยงต่อการเป้นมะเร็ง หรืออะไรมั๊ยค่ะ รบกวนคุณหมอด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ  //xx

อายุ: 34 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 46 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.97 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

22 มกราคม 2558 15:05:31 #2

ลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ ซึ่งหากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

ซึ่งจากประวัตินั้นมีการทานยาลดน้ำหนักนั้น หมอคิดว่าตัวนี้เป็นสาเหตุที่ส่งผลต่อรอบประจำเดือนได้เลยนะครับ ดังนั้น ไม่ควรทานยาประเภทนี้นะครัน