กระดานสุขภาพ

สอบถามเรื่องแผลตรงข้างรูทวารหนัก
Marc*****9

4 มกราคม 2558 07:19:19 #1

ผมเคยเป็นหูดหงอนไก่ด้านในรูทวารหนักและได้ทำการผ่าตัดไปเรียบร้อยเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วครับ ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีอาการคันบริเวณปากทวารหนัก ยิ่งสัมผัสหรือเกาเบาๆก็ยิ่งคัน ผมคิดว่าหูดอาจจะกำเริบจึงใช้ครีม Zevin ที่คุณหมอเคยจ่ายยาใหัทาบริเวณที่คันรอบๆปากทวารหนัก ทาวันละสองครั้งเช้าเย็นได้สัก 3-4 วัน มาวันนี้สังเกตเห็นว่ามันเป็นแผลเล็กๆ ถ้าไปแตะโดนจะแสบครับ และอาการคันลดลง มีแผลคล้ายผิวหนังถลอกใกล้ๆแผลด้วยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะยาที่ทาหรือไม่ ปกติผมมีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันครับ และเป็นฝ่ายรับ. ผมส่งรูปไปทางอีเมลล์รบกวนคุณหมอช่วยวินิจฉัยและตอบผมด้วยครับ รวมถึงวิธีการรักษา.  ขอบคุณคุณหมอล่วงหน้าครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Marc9999-19023-1.JPG

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Marc9999-19023-2.JPG

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Marc9999-19023-3.JPG

อายุ: 40 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 177ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.34 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

5 มกราคม 2558 17:21:07 #2

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลตื้นหลายแห่งรอบๆรูทวารหนัก มีลักษณะคล้ายกับแผลเริม เริมเป็นสาเหตุของแผลที่พบบ่อยที่สุดที่อวัยวะเพศหรือที่ทวารหนักในกรณีที่มีการสอดใส่ทางทวารหนัก
เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ
5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม
ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย
นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์) และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ
เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ
เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด
เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ถ้าไม่แน่ในแนะนำหาหมอครับ

นอกจากนี้แนะนำให้ตรวจเลือดเอดส์ ซิฟิลิส โดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง ประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจ

Marc*****9

6 มกราคม 2558 01:10:27 #3

ขอบคุณมากครับแต่ผมมีคำถามเพิ่มเติมดังนี้

1. ผมใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งทำไมจึงยังติดโรคนี้ครับ

2. ถ้ามีคนมาสัมผัสโดนแผล จะติดเริมไปจากเราหรือไม่ครับ

3. ผมไม่ต้องใช้ยา Zevin cream ทาแล้วใช่ไหมครับ?

4. เห็นว่ายา Aciclovir มีแบบทาด้วย ควรใช้ควบคู่ไปกับยากินไหมครับ?

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

7 มกราคม 2558 03:45:26 #4

1. และ 2 ถ้ามีการสัมผัสกับแผลหรือมีการทำออรัลเซ็กส์โดยไม่ใช้ถุงยาง ก็อาจจะติดได้ ในกรณีของคุณ ถ้าไม่แน่ใจ เวลาเกิดแผลใหม่ๆ ให้หาหมอผิวหนังหรือหมอกามโรคตรวจดูว่าใช่เริมแน่หรือไม่

3. และ 4 ยา Zevin น่าจะเป็นยาตัวเดียวกับ acyclovir ชนิดทา จากการศึกษาพบว่ายาทามีประสิทธิภาพน้อยเมื่อเทียบกับยากิน ไม่จำเป็นต้องทายา