กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนขาด แต่ไม่ท้อง
Anonymous

17 ธันวาคม 2557 00:48:39 #1

สวัสดีค่ะ กินยาคุมมาประมาณ3ปีแล้วค่ะ อยากมีลูกเลยหยุดกิน หลังจากหยุดยาคุมประจำเดือนก็มาปกติ 2  เดือนและอาการปวดประจำเดือนก็กลับมาเหมือนเดิม(ก่อนกินยาคุมจะปวดประจำเดือนมาก) แต่พอเดือนที่3 ประจำเดือนไม่มา  ซื้ที่ตรวจมาตรวจก็ไม่ท้อง ไปเจาะเลือด หมอก็บอกว่าไม่ท้อง แต่มีฮอโมนบางตัวที่สูงผิดปกติ หมอเลยเขียนใบสั่งยาให้ไปซื้อยาปรับฮอโมนมาทาน( ไม่เคยเจอคุณหมอเลยค่ะ มีแต่ถามทางโทรศัพท์ ส่งใบสั่งยาทางตู้จดหมาย ปล. อยู่ต่างประเทศค่ะ) แต่ได้ยินคุณแม่เล่าให้ฟังว่ากรณีของท่าน2-3 เดือนแรกหมอก็ตรวจไม่เจอเหมือนกันค่ะ จนเดือนที่4 ไปฝากท้องหมอที่อนามัยทำหน้างงเลยค่ะเพราะแม่ไป 2-3 ครั้งหมอก็บอกไม่ได้ท้องเป็นไปได้มั้ยค่ะ ว่าจะเป็นพันธุกรรมมาจนถึงดิฉัน แล้วดิฉันควรจะทานยาปรับฮอโมนตามที่คุณหมอที่นี่บอกมั้ยค่ะเพราะดิฉันเป็นคนเอเชีย ตัวเลขฮอโมนที่นี่จะอ่านค่าเหมือนกันกับที่เมืองไทยมั้ยค่ะ. 

 

ขอบคุณค่ะ

อายุ: 29 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.10 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

17 ธันวาคม 2557 04:55:20 #2

ถึง คุณ b0eae

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ b0eae ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ b0eae ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

Anonymous

17 ธันวาคม 2557 05:32:00 #3

ขอบคุณคุ่ะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

17 ธันวาคม 2557 16:14:09 #4

ในกรณีที่มีรอบเดือนมาไม่ปกติและไม่ตั้งครรภ์น่าจะมีสาเหตุมาจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติ เช่น ไม่มีไข่ตกหรือเป็นกลุ่มอาการถุงน้ำที่รังไข่ ซึ่งจะมีผนังรังไข่ที่หนาตัวมาก มีการสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจนมาก ทำให้มีลักษณะของความเป็นชายมาก เช่น สิวมาก หน้ามัน ขนดก มีหนวดเครา ป้็นต้น และประจำเดือนจะไม่ค่อยมาตามปกติ นานๆ มาที ถ้าประจำเดือนไม่มานานมากเิกนไปอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้ ซึ่งจะต้องทานฮอร์โมนให้ประจำเดือนมา และปัญหาที่ตามมาก็คือการมีบถตรยาก เพราะไม่มีไข่ตกตามปกติ อย่างไรก็ตาม ถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ และมีการตกไข่ในช่วงเวลานั้นก็จะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรตรวจปัสสาวะทดสอบการตั้งครรภ์เป็นระยะๆ ด้วย ในกรณีที่ประจำเดือนไม่มานานเกิน 3 เดือน และไม่ตั้งครรภ์ก็ควรทานยาฮอร์โมนเพื่อปรับให้รอบเดือนมาก่อน โดยในช่วงที่ทานยาจะต้องคุมกำเนิดโดยการสวมถุงยางอนามัยไว้ด้วย ไม่ควรตั้งครรภ์ในช่วงที่ทานยาปรับฮอร์โมนเพราะลูกอาจจะมีความเสี่ยงเรื่องอวัยวะเพศกำกวมได้

Anonymous

17 ธันวาคม 2557 20:57:44 #5

ขอบคุณมากค่ะ