ควรใช้วิธีกินอาหารแทนการกินฮอร์โมนเนื่องจากไม่มีผลข้างเคียง

แนะนำให้กินอาหารให้ได้มากเพียงพอในแต่ละวันซึ่งก็ขึ้นกับกิจกรรมในแต่ละวันด้วย ถ้าเป็นคนที่มีกิจกรรมต้องเดินตลอดไม่อยู่นิ่งและออกกำลังกายประจำก็จะต้องการ พลังงานในแต่ละวันเพิ่มขึ้น

กำหนดให้ได้รับพลังงาน 50 แคลอรี่ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมเพื่อเพิ่มน้ำหนักตัว (คนปกติทั่วไปต้องการพลังงาน 30 แคลอรี่ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมเพื่อให้มีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ)
พลังงานที่ควรได้รับ 35 x 50 = 1750 แคลอรี่ต่อวันหรือมากกว่ากินอาหารให้ครบ 3 มื้อหลักและอาหารว่างตอนบ่าย ก่อนนอน

เช้า

• โจ๊กหมูใส่ไข่ 1 ฟอง จะได้พลังงาน 310 แคลอรี่
• โยเกิตรสธรรมชาติ 1 กระปุก จะได้พลังงาน 110 แคลอรี่
• กล้วยหอม 1 ผล จะได้พลังงาน 120 แคลอรี่

เที่ยง

• ข้าวผัดหมู 1 จาน จะได้พลังงาน 557 แคลอรี่
• มะละกอ 1 ชิ้น จะได้พลังงาน 120 แคลอรี่
• น้ำฝรั่ง 1 ขวด จะได้พลังงาน 120 แคลอรี่

บ่าย

• แฮมชีสครัวซองค์ 1 ชิ้น จะได้พลังงาน 205 แคลอรี่
• ชาเขียวเย็นปั่น 1 แก้ว จะได้พลังงาน 195 แคลอรี่

เย็น

• ข้าวสวย 1 จาน 3 ทัพพี จะได้พลังงาน 240 แคลอรี่
• ต้มยำไก่ 1 ถ้วย จะได้พลังงาน 150 แคลอรี่
• ผัดผักรวมหมูกรอบ จะได้พลังงาน 170 แคลอรี่
• สับปะรด 1 ชิ้น จะได้พลังงาน 120 แคลอรี่

ก่อนนอน

• นมสดไขมันธรรมดา 1 กล่อง จะได้พลังงาน 150 แคลอรี่

รวมได้รับพลังงาน 2,567 แคลอรี่

ต้องกินอาหารให้ครบ 3 มื้อต่อวันไม่ข้ามมื้อ และสามารถดูพลังงานอาหารจานเดียว ประกอบการพิจารณาเลือกกินอาหารที่มีพลังงานสูงและหลากหลายกลุ่มอาหาร และอย่าลืมดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 1 - 1.5 ลิตรต่อวันด้วยนะคะ