กระดานสุขภาพ

มีปัญหาที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศอะครับ
Anonymous

1 พฤศจิกายน 2555 12:56:39 #1

คือผมมีอาการมีหนองออกที่หนังหุ้มอวัยวะเพศอะครับ ผมมีอาการคันมาเมื่อ เมื่อวานซืนแต่ไม่มีแผล พอวันที่สองแผลเริ่มมีอาการเป็นตุ่มๆใส่ มีเหมือน น้ำเมือกไหลออกมาที่ตุ่มเล็กน้อยแต่มีตุ่มๆเฉพาะตรงที่คัน ไม่กี่จุด วันต่อมาแผลที่เป็นตุ่มๆเเหมือนมีหนองไหลออกมาแผลเริ่มขยายเป็นวงกว้างและ บวม มีเลือดออกเล็กน้อย ตอนนี้ผมไปหาหมอมาแล้วครับ หมอให้   ฟูซิดิค แอซิค เหมือนเป็นครีมมาทาแผลแล้วก็ให้ po trim มากิน คือผมเป็นกังวลว่าแผลมันจะเป็นมากกว่านี้มั้ยอะครับ เพราะมันบวมและเวลาอาบน้ำนี่ผมเจ็บมากเลย แล้วหลังๆหนองเริ่มออกเยอะขึ้นเรื่อยแล้วครับ (กลัวมันจะไม่หายอะครับ) แล้วถ้าผมขลิบจะช่วยอะไรได้มากน้อยมั้ยครับ

อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 95 กก. ดัชนีมวลกาย : 0.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

2 พฤศจิกายน 2555 04:09:21 #2

คงต้องเริ่มที่ประวัติครับ ถ้ามีประวัติเสี่ยง เช่น มีคู่นอนมากกว่า 1 คนหรือ มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุง หรือ คู่นอนมีพฤติกรรมเสี่ยงต้องนึกถึงกามโรค เช่น เริม ซึ่งถ้าเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล

นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงและหายเองได้

อีกโรคที่พบได้คือแผลริมอ่อน ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย แผลจะลึกและใหญ่กว่าแผลเริม รักษาโดยกินยาแก้อักเสบประเภท erythromycin 500 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง 5-7 วัน

แต่ถ้าไม่มีประวัติเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ก็น่าจะมีสาเหตุมาจากการระคายเคือง แพ้สารที่สัมผัสหรือเป็นเชื้อราร่วมด้วย วิธีรักษาคือเริ่มด้วยการทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนๆ เช่น สบู่เด็ก ห้ามใช้สบู่ยาหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ จะยิ่งบวมและอักเสบมากขึ่น เช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อราและเสตียร์รอยด์อ่อนๆ เช่น clotrimazole+ triamcinolone 0.02% ประมาณ 5 -7 วัน น่าจะดีขึนครับ

ในกรณีที่มีการติดเชื้อของแผล ก็ต้องกินยาแก้อักเสบและยาลดบวมร่วมด้วย เมื่อหายดีแล้วให้ลองดูว่าเวลาอวัยวะเพศแข็งตัว หนังหุ้มมีการรัดตึงเกินไปหรือไม่ ถ้ามีแนะนำให้ขลิบหนังครับ

การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาฌ 1-2 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี

 

นพ.อนุพงศ ชิตวรากร

Anonymous

2 พฤศจิกายน 2555 05:34:29 #3

ขอบคุณครับ หมอ ผมว่ามันน่าจะอักเสบจากการเกาของผมเนี่ยละครับ วันแรกมันแค่คันๆ ผมก็เกาทั้งวัน วันต่อมา มันช้ำเลยครับ แผลริมอ่อน ผมเพิ่งเป็นไปอะครับ กินยาอักเสบแล้วมันหายไปแล้ว แต่ตอนมันเป็นแผมริมอ่อน ผมก้อเริ่มรู้สึก คันตรงแผลหนังหุ้มปลายที่มันอักเสบตรงนี้แล้วครับ แผลทุกวันนี้มันเป็นตุ่มๆเหมือนหนองและบวมมากเลยครับ ปวดมาก

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

2 พฤศจิกายน 2555 08:49:44 #4

ถ้าแนะใจว่าไม่มีประวัติเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ก็น่าจะมีสาเหตุมาจากการระคายเคือง แพ้สารที่สัมผัสหรือเป็นเชื้อราร่วมด้วย
ให้เริ่มด้วยการทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนๆ เช่น สบู่เด็ก ห้ามใช้สบู่ยาหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ จะยิ่งบวมและอักเสบมากขึ่น ซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของยาเชื้อราและเสตียร์รอยด์ เช่น clotrimazole+ triamcinolone 0.02% ร่วมกับกินยาลดบวม ประมาณ 5 -7 วัน น่าจะดีขึนครับ ถ้ายังไม่ดีขึ้น รีบพบแพทย์นะครับ

นพ.อนุพงศ์

Yoss*****o

5 มีนาคม 2556 14:02:35 #5

อาการผมคล้ายๆคุณเลย วันนี้เป็นวันที่ 4 แล้วครับ ทำไงดี เปิดออกมาทำความสะอาดไม่ค่อยได้ด้วยครับ ปวดแสบมากสะดุ้งเลย ตอนนี้ใช้ยาเบต้าดีนฆ่าเชื้อราแทนอยู่ครับ บวก กับทำความสะอาดได้แค่นิดๆหน่อยๆครับลึกๆไม่ได้เลยแสบมาก ผมได้ปรึกษาบอกอาการแบบนี้กับอีกเว็ปหนึ่งเขาก้อให้คำตอบมาว่าถ้าน้องปวดมากก็ให้รับประทานยาแก้อักเสบร่วมด้วย  
พวกควรปฏิบัติอย่างไรดีครับ