กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนมาบ่อยมากครับ อยากทราบว่า จะโอกาศตั้งครรภ์ไหมครับ
Roku*****5

31 ตุลาคม 2557 10:42:26 #1

คือแฟนผมเป็นประจำเดือนบ่อยมากครับ 1 เดือน มา 3 รอบแล้ว คิดว่ามันแปลก ๆ เวลามีเพศสัมพันธ์ โดยที่ ไม่ได้ใส่ถุง ก็ให้กินยาคุม แบบ ธรรมดาไปนะครับ แต่ ตอนนั้น ซึ่งได้ใส่ถุงแต่ว่า ถุงรั่ว เล้ยให้กินยาคุม แบบฉุกเฉิน ไปนะครับ และหลังจากนั้น ก็ รอ ประจำเดือนมา แล้วก็มานะครับ แต่ มา รอบที่ 2 แล้วก็หายไป พอที่นี่ หายไปนาน มีเพศสัมพันธ์อีกครั้งและป้องกันโดย ใส่ถุงยางแล้ว จากนั้น อีก 2 วัน ต่อมา ประจำเดือนก็มาอีก รอบที่ 3 อีก อยากทราบ อาการคือ อะไรครับ และ มีโอกาศท้อไหมครับ ขอความกรุณาด้วยครับ

อายุ: 17 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.59 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

31 ตุลาคม 2557 18:10:06 #2

จากลักษณะที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น สาเหตุที่มีเลือดออกมาหลายๆรอบ หรือ ผิดปกตินั้น เกิดจากการทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนที่ไม่ถูกต้อง ทานและหยุด และ ไปทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินอีก ทำให้เลือดออกผิดปกติอย่างแน่นอนครับ ซึ่งหากมีเพศสัมพันธ์และไม่ได้ป้องกัน หรือ หากในการมีเพศสัมพันธ์นั้นใช้ถุงยางอนามัยแล้วมีปัญหา ขาด รั่ว หรือ ปริแตก ก็ทำให้ตั้งครรภ์ได้อย่างแน่นอนครับ ซึ่งการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ซึ่งการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้ยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ หรือ หากสับสนว่าจะตรวจช่วงไหนดี ก็อาจตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมา หากปกติด้วยครับ และ หากประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

ส่ิงที่หมอฝากได้คือ การป้องกันการตั้งครรภ์นั้น ควรใช้วิธีที่ป้องกันก่อนมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย หรือ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้น การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น นอกจากประสิทธิภาพจะต่ำกว่าแล้ว ยังมีผลข้างเคียงมากกว่าอีกด้วยครับ ด้วยความหวังดีครับ