กระดานสุขภาพ

การใช้ยาoxoferin
Tanj*****a

30 ตุลาคม 2555 06:09:18 #1

เป็นแผลบริเวณนิ้วหัวแม่เท้า แล้วได้รับยาoxoferinมาใส่แผลปรากฎว่ารอบๆแผลผิวหนังมีความซีด อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไรเป็นผลข้างเคียงของยาหรือเปล่า ห่วงกังวลกลัวว่าเลือดจะมาเลี้ยงไม่ถึง จึงทำให้ผิวหนังรอบๆซีด ขอขอบพระคุณล่วงหน้าที่ให้คำแนะนำครับ

อายุ: 65 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ดัชนีมวลกาย : 0.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

31 ตุลาคม 2555 06:15:14 #2

ไม่ทราบว่าเป็นแผลชนิดใด ทำไมแพทย์ถึงสั่งจ่ายยานี้ให้ใช้ใส่แผลครับ เนื่องจากนี้มีข้อบ่งใช้เฉพาะ เนื่องจากตัวยาจะออกฤทธิ์โดยปลดปล่อยออกซิเจนเข้มข้นออกมาเพื่อช่วยเรื่องเพิ่มออกซิเจนให้กับเนื้อเยื่อตรงที่เป็นแผล ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นและช่วยเรื่องกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดการอักเสบ เป็นหนอง และแผลติดกันช้าลง

 

โดยทั่วไปจะใช้กับแผลที่รักษาหายยาก เช่น แผลเบาหวาน หรือ แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ที่เป็นลึกถึงระดับเนื้อเยื่อภายในผิว

 

เรื่องรอบ ๆแผลซีดขาว จะช่วยกำจัดเชื้อโรคและเนื้อเยื่อที่ตายแล้วออกและช่วยเร่งเนื้อเยื่อผิวด้านล่าง ให้เจริญขึ้นมาแทนที่เนื้อเดิมครับ อาการข้างเคียงส่วนใหญ่ อาจจะมีอาการแสบ ร้อน แดง ได้บ้าง (คล้าย ๆกับ ไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์)

 

กรุณาใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรอย่างเคร่งครัดนะครับ แผลจะได้หายไวขึ้น การเก็บรักษาควรเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น อย่าโดนแดด หรือใกล้ที่ร้อนนะครับ เพื่อให้ตัวยาคงประสิทธิภาพได้นาน ๆ

 

เป็นกำลังใจให้แผลหายไว ๆนะครับ

 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

Tanj*****a

1 พฤศจิกายน 2555 04:15:11 #3

เป็นแผลเบาหวานครับ ขอบคุณนะครับสำหรับคำแนะนำดีๆ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

1 พฤศจิกายน 2555 11:33:13 #4

ถ้าแผลเบาหวาน คุณหมอก็จ่ายถูกต้องแล้วครับ เพราะโดยทั่วไป ผู้ป่วยเบาหวานมักมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือด เส้นประสาทที่ไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลาย เช่น ปลายมือ ปลายเท้า โดยเฉพาะเท้าจะมีปัญหาค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นอวัยวะที่ต้องใช้งานมาก มีโอกาสเดินไปเตะโต๊ะ ตู้ จนอาจเป็นแผลได้ง่าย แต่กลับได้รับอาหารค่อนข้างน้อย เลือดกว่าจะไหลเวียนจากหัวใจลงไป

ดังนั้น พยายามรักษาความสะอาดให้มาก อย่าใส่รองเท้าที่คับแน่นเกินไป ระวังเรื่องการเป็นแผล

สังเกตอาการนะครับ หากเนื้อเยื่อที่แผลเป็นสีแดง ชมพู แบบนี้นับว่าดี แต่หากเริ่มมีสีดำ คล้ำ (ที่ไม่ใช่แผลแห้งตกสะเก็ด) หรือมีหนองไหลออกมา ร่วมกับอาการชา ไม่รู้สึกที่ปลายเท้า ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ไม่ต้องรอถึงวันนัด
แผลจะหายช้ามากๆ ต้องใจเย็นๆนะครับ เพื่อให้เนื้อเยื่อค่อยๆดีขึ้นจากด้านใน

ต้องควบคุมระดับน้ำตาลให้ดี เพราะน้ำตาลจะเป็นอาหารของเชื้อโรค ทำให้แผลหายช้า

 

เป็นกำลังใจให้แผลหายดีนะครับ
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล