ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่นมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางอนามัย แผลคราบขาวๆที่เห็นอาจะเป็นโรคติดต่อ ที่พบได้ เช่น เริม จะเป็นแผลตื้นๆ เป็นๆหายๆ หรืออาจเป็นแผลซิฟิลิ ซึ่งจะเป็นแผลขอลแข็ง ไม่เจ็บ หรืออาจเป็นผื่นของซิฟิลิส ระยะที่สอง ซึ่งตรวจเลือดจะพบว่าเป็นผลบวก แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยง คือใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธุ์ หรือมีแฟนคนเดียว และแฟนก็ไม่มีีความเสี่ยง ก็อาจเป็นการแพ้ หรือเป็นโรคผิวหนัง ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนังหรือหมอกามโรค

           คุณหมอครับ จากที่คุณหมอแนะนำ ผมกังวลมาก จนไปพบแพทย์มาแล้ว 1 ครั้ง แพทย์ยังไม่สามารถสรุปได้ชัด เพียงแต่บอกว่า ไม่ใช่ ซิฟิลิส แต่ก็ไม่เหมือนเริม แต่ให้ยาทา คลอวิน มาใช้ทาก่อน

           มันพอจะเป็นโรคอะไรอื่นๆได้อีกมั้ยครับ เบื้องต้น ผมไม่เคยมีแผลหรือตุ่มใสๆขึ้นที่อวัยวะเพศและหนังหุ้ม มีเพียงครั้งนี้ที่เป็นคราบขาวๆ ซึ่งไม่ใช่แผลนะครับ ไม่มีเลือด ไม่มีหนอง เหมือนมีคนเอาสีขาวหรือแป้งเปียกมาทาครับ ปัจจุบันอวัยวะเพศผมก็ยังปกติไม่มีแผล ตามร่างกายก็ไม่ได้มีผื่นขึ้น มือ เท้า ก็ไม่มีจ้ำ ปัสสาวะไม่ขัด ไม่แสบ ไม่มีหนอง อาการนี้ผมเคยทานยา แก้เชื้อรา แต่ก็ไม่ลดลงครับ

ถ้าแน่ใจว่าไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง รวมทั้งไปหาหมอมาแล้ว เจาะเลือดตรวจซิฟิลิสแล้วไม่บวก ก็อาจจะมีสาเหตุจากโรคผิวหนัง เช่น Bechet Disease ซึ่งจะมีแผลที่เยื่อบุอื่นๆ เช่นในช่องปากร่วมด้วย แนะนำหาหมอโรคผิวหนังครับ

ขอบคุณมากครับ ผมทำตามคำแนะนำทุกอย่างเลยครับ ในวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา ผมเดินทางไปสภากาชาดไทย เพื่อไปตรวจซิฟิลิส และ HIV ( ผมยื่นบัตรขอตรวจ เพราะว่ามันฟรีครับ ) ปรากฏผลออกมา ซิฟิลิส เป็น non-reactive และ HIV เป็น Negative ครับ ผมเลยตัดเรื่องของซิฟิลิสออกครับ คงเหลือแต่โรคผิวหนังแล้วครับ ผมรอนัดหมอผิวหนังวันที่ 10 พฤศจิกายน นี้ครับ แล้วจะรายงานให้ทราบเรื่อยๆครับ

ขอบคุณคุณหมอมากๆนะครับ สำหรับคำแนะนำ