กระดานสุขภาพ

เป็นรังแค มาก ใช่แชมพูอะไรก็ไม่หาย ทำไงดีคะ
Anonymous

11 กันยายน 2557 09:57:09 #1

เป็นรังแคมานานมากคะ  ปีกว่าๆแล้ว ใช้แชมพูยา ก็ไม่หาย  ต้องสีะผมทุกวันคะ  ถ้าไม่สระผมก็จะคัน และเกา แล้วก็เลือดออก  เวลาเกาจะเกาโดนรังแค เป็นตุ่มๆก้อนๆและเป็นกาบๆหรือสะเก็ดค่ะ  สาเหตุเกิดจากอะไรค่ะ   พี่ก็เลยเอายาตัวนี้ให้กินค่ะ  ตัวยาสำคัญ Ketoconazole  200 mg  อาการของยาตัวนี้เปนยังไงบ้างค่ะ  ควรกินวันละเท่าไหร่ตอนไหนค่ะ  พี่เขาแนะมาให้กินแต่ยังไม่ได้กินนะคะ

อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.58 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

11 กันยายน 2557 11:04:06 #2

ถึง คุณ e8947

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ e8947 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ e8947 ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

รศ.พญ.เปรมจิต จันทองจีน

แพทย์โรคผิวหนัง

13 กันยายน 2557 17:49:42 #3

จากประวัติ มีรังแค ขุย คันที่หนังศีรษะ ไม่แน่ใจว่ามีผื่นที่หน้าหู หลังหู ไรผม หัวคิ้ว ข้างจมูกร่วมด้วยหรือไม่ค่ะ

ซึ่งแนวโน้มน่าจะเข้าได้กับโรค ผื่นผิวหนังอักเสบที่หนังศึรษะกลุ่ม seborrheic dermatitis ค่ะ

โรคนี้เป็นผื่นผิวหนังอักเสบเรื้อรังอย่างหนึ่ง มักเป็น ๆ หายๆ สาเหตุยังไม่ทราบชัดเจน บางคนเชื่อว่าสัมพันธ์กับการติดเชื้อราบางชนิด ผื่นมักเห่อเมื่อมีอาการเครียด อดนอน ไม่สบายเจ็บป่วยได้ แต่เมื่อรักษาทายา ก็จะอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

การรักษาจึงเน้นที่การลดหรือหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นร่วมกับการทายาค่ะ

1. ยาสระผมที่ลดการอักเสบของหนังศีรษะเช่น ketoconazole shampoo, shampoo กลุ่มน้ำมันดินเป็นต้น

2. ยาทาสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบของหนังศีรษะ เช่นยาทากลุ่ม triamcinolone acetonide

3. ยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน ในกรณีที่มีอาการคันมาก เพื่อลดอาการคัน

Anonymous

15 กันยายน 2557 02:41:34 #4

มีผื่นขึ้นตามไล่ผม หลังหู ข้างในใบหูค่ะ  เวลาเกาหรือแกะออกเหมือนกับรังแคมาเกาะที่ใบหูนะคะ  ตอนนี้เกิดที่คิ้วค่ะ รู้สึกว่าจะรามทั่วคิ้วแล้วค่ะคุณหมอ คิ้วข้างซ้าย เกาะก็หลุดออกึ่ะแต่จะเป็นแดงๆพรุ่งนี้ก็ขึ้นใหม่ ตอนนี้หน้าผากก็เริ่มลอกๆแต่ไม่มาก

รศ.พญ.เปรมจิต จันทองจีน

แพทย์โรคผิวหนัง

16 กันยายน 2557 14:40:06 #5

จากประวัติ ก็น่าจะเข้าได้กับโรค seborrheic dermatitis ดังที่กล่าวไปค่ะ

สำหรับการรักษาผื่นที่หน้า

1. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้หน้าระคายเคือง หรือปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ เช่นหลีกเลี่ยงการโดนแดด การอดนอน การไม่สบาย ภาวะเครียด การใช้เครื่องสำอางค์ครีมบำรุงผิวที่มีฤทธิ์ระคายเคืองได้แก่กลุ่มทำให้หน้าขาว ให้หน้าใส ยารักษาสิว เป็นต้น

2. ใช้สบู่ที่อ่อนโยน ซึ่งมักเป็นสบู่ที่ไม่มีฟอง ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำหอม

3. ทายาลดการอักเสบซึ่งสามารถเลือกใช้ได้หลายตัว เช่นการใช้ยาทาสเตียรอยด์ชนิดที่มีความรุนแรงน้อย (เช่น 1% hydrocortisone cream, 0.02% triamcinolone cream เป็นต้น) โดยใช้ต่อเนื่องไม่ควรเกิน 5-7 วัน นอกจากนี้ก็อาจใช้ยาทาเพือ่ลดการอักเสบอื่นๆ ได้เช่น ketoconazole cream, topical tacrolimus, topical pimecrolimus เป็นต้น

4. ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง

Anonymous

16 กันยายน 2557 16:04:02 #6

ขอบคุณมากนะคะ เดียวได้ผลยังไงจะกลับมาบอกอีกทีนะคะ  ได้ประโยชน์มากๆเลยค่ะ