เรียน คุณ nap,

การรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดปกติ ที่ถูกต้อง คือรับประทานยาเม็ดแรกภายในวันแรกที่มีประจำเดือน เพื่อให้ออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ตั้งแต่รับประทานยาเม็ดแรกครบ 24 ชั่วโมง โดยยาคุมกำเนิดหากรับประทานยาถูกต้อง สม่ำเสมอ โอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์คือ 1-2 เปอร์เซ็นต์

- การรับประทานยาไม่ควรคลาดเคลื่อนเกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้ระดับยาในเลือดสม่ำเสมอ ป้องกันการเกิดเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือน

- รับประทานยาด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มอื่น ๆอาจทำให้ยาตกตะกอน หรือดูดซึมน้อยลง (เช่น ชา กาแฟ ชาเขียว นม น้ำเต้าหู้ น้ำแร่ )

- ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนระดับฮอร์โมนในยาคุมกำเนิดลดต่ำลงจนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

ขอแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน แม้ว่าจากข้อมูลบริษัทยาจะแนะนำไม่ให้รับประทานยาเกิน 2 ชุดต่อเดือน เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูกที่อาจเสียงต่อการตกเลือดในช่องท้องจนเสียชีวิตได้ แต่จากการศึกษาย้อนหลังพบว่า สตรีที่ได้รับยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน "มากเกินกว่า 3 ครั้ง ตลอดชีวิต" จะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดมะเร็งสูงกว่าสตรีที่ไม่เคยได้รับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งเต้านม รังไข่ มดลูกหรือมะเร็งตับ จึงควรใช้ต่อเมื่อมีความจำเป็นทางการแพทย์ คือ เมื่อถุงยางอนามัยรั่วหรือฉีกขาด หรือ ถูกข่มขืน เท่านั้น

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

การคุมกำเนิด (Contraception) โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์

ข้อมูลดีมากคะ ขอบคุณจากใจคะ

ก็ไม่วายสงสัยอีกนิดคะ คุณหมอ // หากทานยาไปแล้ว 5 วัน. (ยาคุมแบบ21เม็ด)  ก็คุมได้ เลย อาจท้อง1-2% ใช่มั้ยคะ

เรียน คุณ nap,

ตัวยาคุมออกฤทธิ์เม็ดต่อเม็ดครับ ดังนั้น หากคุณลืมรับประทานยา รับประทานยาไม่สม่ำเสมอ โอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์จะเพิ่มจาก 1 เปอร์เซ้นต์ เป็น 8-10 เปอร์เซ็นต์ ครับ ไม่มียาคุมกำเนิดที่คุมได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ยกเว้นว่าคุณจะทำหมันถาวรไป โอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์ ก็จะลดลงเหลือใกล้ศูนย์ครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล