กระดานสุขภาพ

การดื่มน้ำ
Anonymous

19 กรกฎาคม 2557 06:34:52 #1

อยากทราบถึงการดื่มน้ำดื่มอย่างไรให้มีประโยชน์ค่อร่างกายครับว่าเราต้องดื่มน้ำวันละเท่าไหร่ช่วงเวลาใหนผมเปนคนชอบดื่มน้ำบ่อยมากโดยเฉพาะช่วงก่อนนอนและตอนเช้าแต่ปัญหาคือปัสสาวะบ่อยมากและรบกวนช้วงเวลานอนและชีวิตประจำวัน....ขอบคุณครับ

..***..

อายุ: 27 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.65 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

19 กรกฎาคม 2557 17:01:31 #2

ถึง คุณ a43e5

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ a43e5 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

อาจารย์พีระพรรณ โพธิ์ทอง

นักวิชาการโภชนาการ

29 กรกฎาคม 2557 11:07:09 #3

น้ำเป็นสารอาหารที่ต้องได้รับและขับถ่ายออกจากร่างกายในแต่ละวัน เมื่อได้รับมากก็จะขับถ่ายออกมาก ร่างกายต้องการน้ําเพื่อใช้ในกระบวนการเผาผลาญอาหารให้ได้พลังงานใช้ในการดํารงชีวิตและทํากิจกรรมต่างๆ และร่างกายจะมีการควบคุมน้ําให้อยู่ในสภาพสมดุลเพื่อให้เซลล์ทํางานได้ตามปกติอยู่เสมอ น้ำได้ทั้งจากการกิน การเกิดขบวนการเผาผลาญสารอาหารภายในร่างกาย ( Oxidation ) และมีการสูญเสียน้ำได้ทางผิวหนัง ลมหายใจ อุจจาระและปัสสาวะ เป็นต้น

ร่างกายคนต้องการน้ําทุกวันปริมาณแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน เช่น แตกต่างไปตามวัย เพศ กิจกรรม อาหารและยาที่กิน เป็นต้น สําหรับในกรณีนี้มีอายุ27 ปี มีน้ําหนัก 51 กิโลกรัม ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันอาจหาได้ดูจาก

1. ปริมาณน้ําที่ร่างกายต้องการตามที่คณะกรรมการจัดทําข้อกําหนดสารอาหารที่ควรได้รับประจําวันสําหรับคนไทย ปี2546 จะต้องการน้ําวันละ 2,100-3,150 ซี.ซี

2. ถ้าใช้วิธีการคํานวณความต้องการน้ําโดยคิดจากปริมาณความต้องการพลังงานเพื่อให้ร่างกายทํางานได้ ตามปกติเป็นหลัก ซึ่งกําหนดให้น้ําที่ควรได้รับคือ 1 – 1.5 มิลลิลิตรต่อ 1 แคลอรี่ของพลังงานที่ใช้จริง อันดับแรกต้องคิดหาค่าพลังงานที่เพียงพอให้ร่างกายทํางานได้ตามปกติก่อนโดยใช้แนวคิดของ Holiday & Segar ซึ่งคํานวณจากน้ําหนักตัว ดังนี้ น้ำหนักตัว ( กิโลกรัม) พลังงานที่ใช้ 0 -10 กิโลกรัม 100 แคลอรี่ต่อกิโลกรัม

> 10-20 กิโลกรัม 1,000 + ( 50 แคลอรี่ต่อกิโลกรัมที่มากกว่า 10 กิโลกรัม)

> 20 กิโลกรัม 1,500 + ( 20 แคลอรี่ต่อกิโลกรัมที่มากกว่า 20 กิโลกรัม)

ความต้องการพลังงานในกรณีนี้ = 1,500 + ( 20 x 31 ) = 1,500 + 620 = 2,120 แคลอรี่ต่อวัน

ความต้องการน้ำในแต่ละวัน 1-1.5 มิลลิลิตรต่อ 1 แคลอรี่ = 2,120 x 1 = 2,120 มิลลิลิตรต่อวัน หรือ = 2,120 x 1.5 = 3,180 มิลลิลิตรต่อวัน

ดังนั้น ความต้องการปริมาณน้ําอยู่ที่ 2,100 – 3,150 มิลลิลิตร ต่อวัน

หมายเหตุ ; ปริมาณน้ำที่ร่างกายได้รับจะรวมหมายถึง น้ํามาจากการดื่มน้ําและจากอาหารอื่นๆ ที่เป็นของเหลว เช่น จากการดื่มนม กินน้ําซุป น้ําแข็ง ชา กาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ น้ำผลไม้ทุกชนิดและจากผัก ผลไม้ซึ่งก็มีน้ําเป็นส่วนประกอบด้วยเช่นกัน และผู้ที่มีกิจกรรมและมีการออกกําลังกายกลางแจ้งร่างกายจะต้องการน้ำเพิ่มขึ้นมากกว่านี้

ปริมาณน้ำที่ร่างกายควรได้รับ เมื่อทราบว่าควรดื่มน้ําอย่างน้อย 2,120 มิลลิลิตร หรือ 2 ลิตรต่อวัน ( เท่ากับน้ําขนาด 500 ซี.ซีจํานวน 4 ขวด ) การแบ่งดื่มตามมื้ออาหาร 3 มื้อ ๆ ละ 1 ขวด และระหว่างมื้อที่อากาศร้อนอีก 1 ขวด ก็ทําให้ร่างกายได้รับน้ําตามที่ควรได้รับในแต่ละวันและระบบการทํางานรักษาสมดุลของน้ําก็ทํางานไม่มากหรือน้อยเกินไปในแต่ละช่วงเวลาในการดื่มน้ําแต่ละช่วงเวลาร่างกายก็จะรักษาสมดุลน้ําให้ในที่นี้จะเน้นการขับน้ําทางปัสสาวะเมื่อดื่มน้ำจํานวนหนึ่ง

ในคนปกติจะมีกระเพาะปัสสาวะที่สามารถจุน้ําได้ 300 – 500 มิลลิลิตรซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของกระเพาะปัสสาวะ เมื่อมีน้ำอยู่ 240-300 มิลลิลิตรก็จะมีการกระตุ้นให้รู้สึกอยากขับถ่ายปัสสาวะแต่ยังรอได้จนมีเพิ่มขึ้นเป็น 300-400 มิลลิลิตรหรือ 500 มิลลิลิตร จึงจะปวดถ่ายปัสสาวะซึ่งก็แล้วแต่ความอดทนหรือความเคยชินของแต่ละคนด้วย และระบบปัสสาวะที่ปกติจะค่อยๆ รองรับน้ําจนมีปริมาณเต็มที่จะรับไว้ได้และขับออกเป็นปัสสาวะภายใน 2-4 ชั่วโมง ดังนั้นในช่วงกลางวันถ้ามีปัสสาวะ 3-5 ครั้ง กลางคืน 1-2 ครั้งจึงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ามีกินอาหาร ยาบางอย่างที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ดื่มน้ําในปริมาณน้อยหรือมากกว่า 2 ลิตรต่อวันก็อาจมีจํานวนครั้งที่แตกต่างออกไป

สําหรับกรณีของท่าน ถ้ามีการดื่มน้ํามากกว่าวันละ 2 ลิตร ในช่วงกลางวันก็เป็นไปได้ว่าจะปัสสาวะบ่อย ในช่วงกลางคืนก็เช่นเดียวกัน เพราะร่างกายจะพยายามรักษาสมดุลของน้ําที่ขับออกให้สมดุลกับน้ําที่ท่านดื่มเข้าไปนั่นเอง

ทางแก้คือต้องลดปริมาณน้ำดื่มก่อนนอนให้น้อยลงกว่าที่เคยดื่ม มุมมองที่อาจเป็นไปได้ การที่ท่านดื่มน้ำมากอาจเป็นไปได้ว่าท่านกินอาหารที่มีรสเค็มมากในแต่ละวันทําให้เกิดความกระหายน้ำตลอดทั้งวัน ลองสังเกตดูว่าท่านชอบเติมรสเค็มเพิ่มขณะกินอาหารหรือไม่ ถ้าใช่การลดกินเค็มจะทําให้ท่านกระหายน้ําลดลงได้ อาการปัสสาวะบ่อยก็จะลดลงเช่นกัน ส่วนในช่วงกลางคืนถ้าดื่มน้ํามากแล้วปัสสาวะบ่อยก็จะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าจํากัดการดื่มน้ำแล้วกลางคืนมีคอแห้งกระหายน้ำและยังมีปัสสาวะบ่อยอยู่ก็อาจต้องพบแพทย์เนื่องจากอาจมีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดมีน้ําตาลผิดปกติได้ เป็นต้น

คําถามที่ว่าควรดื่มน้ำช่วงเวลาไหนนั้น ก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน โดยหลักการควรดื่มเมื่อกินอาหารและเมื่อร่างกายสูญเสียเหงื่อ ปริมาณที่ไม่แน่ใจว่าเพียงพอหรือไม่ก็ให้สังเกตจากสีของปัสสาวะถ้ามีสีเหลืองเข้มก็ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นแต่ถ้ามีสีเหลืองอ่อนก็มั่นใจได้ว่าร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่พอเพียง และถ้าการดื่มน้ำไปมีผลรบกวนในการนอนก็น่าจะปรับเปลี่ยนเพื่อให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ