แผลไม่หายเนื่องจากรักษาไม่ตรงกับโรคไม่ใช่เริมคับ  วันนี้ผมเจาะเลือดตรวจVDRL ที่คลินิคนิรนามมาคับ คับ ผลออกมาเป็นซิฟิลิส ระยะแรกไตเติล1:2 หมอจ่าย doxcy 100 mg 30  เม็ด เม็ดสีม่วง มา อยากทราบว่าแผลที่เกิดการอักเสบจะรักษายังไง แล้วยากินจะมีประสิทธิภาพดีเท่ายาฉีดไหม ถ้าไตเติลอยุ่ที่1:2  

เมื่อช่วงเย็นวันที่15 กค 57 ผมได้ไปทำการตรวจที่โรงพยาบาลเวชศาตร์เขตร้อน เพื่อยืนยันว่าเป็นแผลที่เกิดจากซิฟิลิสจริงไหม โดยใช้วิธีการตรวจแบบRPR หลังจากนั้น ผลออกมาเป็นซิฟิลิสบวก ไตเติลอยุ่ที่1:8 แล้วคุณหมอได้ทำการขูดหนองบริเวณแผลไปส่องกล้องเพื่อดูอีกทีว่าใช่แผลซิฟิลิสไหม ผลออกมา ไม่พบตัวซิฟิลิส แต่คุณหมอก็ยืนยันว่าแผลที่เกิดขึ้นเป็แผลของซิฟิลิส จึงได้ทำการฉีดpenicilin บริเวณแก้มก้นทั้งสองข้าง ส่วนdoxcy คุณหมอบอกว่าไม่ต้องทาน หลักจากฉีดเสร็จ ประมาณ4-5 ชม รู้สึกว่ามีการปวดบริเเวณแผลมาก ปวดจนนอนไม่หลับ อาการปวดเป็ลลักษณะ ปวดยิบๆเหมือนมีตัวอะไรชอนไชที่บาดแผล. หลังจากนั้น อาการต่างๆค่อยเริมดีขึ้น 

ถ่ายรูปได้ชัดมากและจากประวัติที่ให้มา แผลที่บริเวณทวารหนัก เป็นลักษณะของซิฟิลิสระยะที่ 2 ที่เรียกว่า condyloma lata ซึ่งจะเป็นผื่นหรือแผล มีน้ำเหลืองที่ผิวโดยในน้ำเหลืองจะมีเชื้อซิฟิลิส ( Treponema pallidum) ถ้ามีการสัมผัสเชื้อ ก็จะติดต่อได้ นอกจากนี้อาจจะพบผื่นตามตัว แขน ขา ฝ่ามือฝ่าเท้า โดยจะไม่มีอาการคัน ตรวจยืนยันว่าเป็นซิฟิลิสหรือไม่ด้วยวิธี VDRL หรือ RPR หรือ TPHA ในกรณีของคุณค่า VDRL 1:2 ยืนยันว่าเป็นซิฟิลิสระยะที่ 2 ยาที่ดีที่สุดคือ ฉีด Benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว ในกรณีที่แพ้ยาฉีด ให้กินยา doxycyxline ครั้งละ 100 มิลลิกรัม เช้าเย็น เป็นเวลา 14 วัน ติดตามผลการักษาโดยการเจาะเลือด VDRL ทุก 3 เดือน ถ้ามีค่าสูงขึ้นกว่าเดิม 4 เท่า ต้องพิจารณารักษาซ้ำ ส่วนเรื่องแผลที่บริเวณทวารหนัก น่าจะหายใน 2 อาทิตย์ แนะนำว่าควรจะตรวจเชื้อเอดส์ด้วย เพราะจากสถิติ พบว่าในชายรักชายที่มีการร่วมเพศทางทวารหนัก จะมีโอกาสติดเชื้อสูงกว่าชายทั่วไปหลายเท่า ให้ใช้สิทธิที่มี เช่นประกันสังคม หรือบัตรทอง ไม่ต้องเสียเงินครับ