กระดานสุขภาพ

หยุดทานฮอร์โมนรักษาสิวแล้วประจำเดือนไม่ปกติ
Anonymous

13 กรกฎาคม 2557 05:43:30 #1

ปกติประจำเดือนมาทุกเดือนคะ ประมาณ 5 วัน มีคลาดเคลื่อนบ้างแต่ไม่มาก ก่อนมีปจด.สิวขึ้นทุกครั้ง เมื่อเดือนเม.ย.57 ไปหาหมอผิวหนังรักษาสิวคะ เนื่องจากสิวเห่อมาก อาจจะแพ้เครื่องสำอางค์ด้วย ได้ยาทา กับยาทานรักษาสิว หมอให้ทานฮอร์โมนด้วย เริ่มทานฮอร์โมน 20 เม.ย. ครบ 21 วัน  หยุดทาน ประจำเดือนมา 17 พ.ค.ประมาณ 5 วัน แล้วไปหาหมอตรงนัด( 18 พ.ค.) ได้ฮอร์โมนมาทานอีก ทานได้4 วัน ก็หยุดทานเอง (รุ็สึกทานแล้วคลื่นใส้มาก)   แล้วก็ไม่ได้ไปรักษาสิวกับหมออีก ช่วงต้นเดือน มิ.ย รู้สึกเหมือนมีประจำเดือน กะปริบกะปรอย ประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วหายไป แล้วมีตกขาวสีคล้ำเหมือนมีเลือดปน มีกลิ่นค้วยคะ มาตลอดเลย ช่วงปลายเดือน มิ.ย.-ต้นเดือน ก.ค. ก็มีประจำเดือนกะปริบกะปรอยปนมากับตกขาวอีก จะทำอย่างไรดีคะ เพราะฮอร์โมนที่ทานไม่ครบหรือเปล่าคะ

 

อายุ: 40 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 43 กก. ส่วนสูง: 152ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.61 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

14 กรกฎาคม 2557 03:14:21 #2

เข้าใจว่าแพทย์น่าจะจ่ายยาเม็ดคุมกำเนิดให้คุณเพื่อหวังผลในการรักษาสิวด้วย ยาดังกล่าวจะเป็นยาชนิดแผง 21 เม็ด ตัวยาจะประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตรเจน ซึ่งจะต้องทานในเวลาเดียวกันของทุกวัน และทานจนหมดแผง มิฉะนั้นอาจจะทำให้เกิดอาการเลือดออกผิดปกติได้ ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ได้เช่นกัน การที่คุณมีเลือดออกผิดปกติกระปริดกระปรอยเป็นผลมาจากการทานยาคุมไม่หมดแผง ทานเพียง 4 วันแล้วหยุดไปเอง จึงเกิดอาการดังกล่าวขึ้น ควรไปพบแพทย์ทางด้านสูตินรีเวชกรรมเพื่อรับยาฮอร์โมนมาทานเพื่อปรับรอบเดือนให้ปกติใหม่ ส่วนใหญ่แพทย์จะให้ฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนมารับประทานนานประมาณ 10-12 วัน รอบเดือนก็จะกลับสู่ภาวะปกติได้ ส่วนอาการตกขาวปนเลือดมีกลิ่นเกิดจากการติดเชื้อภายในช่องคลอด เพราะคุณมีเลือดออกผิดปกติมานาน เลือดจะเป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรียในช่องคลอด จึงทำให้เกิดการติดเชื้อ ช่องคลอดจึงมีกลิ่น สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อรับยามาสอดหรือทานยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการติดเชื้อในช่องคลอดได้ค่ะ