กระดานสุขภาพ
| มีแผลที่อวัยวะเพศครับ กังวลมากๆ | |
|---|---|
|
19 พฤษภาคม 2557 15:23:36 #1 สวัสดีครับคุณหมอที่เคารพ ผมมีอาการเจ็บที่อวัยวะเพศเมื่อ 2 วันก่อน และมีน้ำใสๆเมือกๆที่ปลายอวัยวะเพศใต้หนังหุ้มองคชาต ผมต้องคอยล้างทำความสะอาดตลอดๆบ่อยทั้งวัน มีน้ำใสๆเมือกๆออกมาตลอด ต่อมา เริ่มมีเป็นแผลใหญ่ขึ้นกังวลมากๆ เลยศึกษาในอินเทอร์เนต ผมคิดว่าผมเป็นโรคเริม จึงไปซื้อยากินกับยาทาที่คลินิก ชื่อยา Vilerm 200 mg ซึ่งผ่านมา 1 วัน อาการยังไม่ดีขึ้น ตอนนี้พอผมล้าางน้ำสะอาด ก็มีเลือดออก คล้ายกับผิวตรงปลายอวัยวะเพศผมบางมากๆ กังวลมากๆเลยครับ อยากหายมากๆ ผมยิ่งล้างบ่อยๆก็ยิ่งเจ็บที่ปลายอวัยวะเพศ ผมจึงขอคำแนะนำจากคุณหมอ และผมกังวลมากๆว่าผมนั้นเป็นอะไร ตามรูปนะครับ ขอบคุณคุณหมอด้วยครับ |
|
| อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 80 กก. ส่วนสูง: 187ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.88 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
22 พฤษภาคม 2557 02:25:07 #2 ถ้าก่อนเป็นแผลประมาณ 3-10 วัน มีความเสี่ยงทางเพศ เช่น เที่ยวผู้หญิง หรือมีการร่วมเพศโดยไม่ใช้ถุงยาง น่าจะเป็นเริม (รูปไม่ค่อยชัด) เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยงเช่นยังไม่เคยร่วมเพศหรือใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็อาจเกิดจากการแพ้หรือระคายเคืองต่อสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ หรือสารหล่อลื่นในถุงยาง แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ห้ามใช้สบู่ยาเพราะจะแห้งมากขึ้น ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% ทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน สรุป ขึ้นกับพฤติกรรมทางเพศ ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนังหรือกามโรค |
Anonymous |
22 พฤษภาคม 2557 08:29:39 #3 แต่ผมไม่มีตุ้มน้ำใสๆเลย เมื่อวานไปซื้อยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียมาทารู้สึกว่าดีขึ้นมากครับ เกิดจากสาเหตุอะไร ผมว่าไม่น่าจะใช่เริมครับเพราะไม่มีตุ้มหรือเสี่ยงต่อการร่วมเพศเลย เมื้อกี้ผมไปค้นหามาใช่โรคแคนดิด้า รึป่าวครับคุณหมอ และในอนาคตผมจะกลับมาเป็นอีกไหม อะนนี้กังวัลอยู่ครับ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
22 พฤษภาคม 2557 16:16:29 #4 ถ้าแน่ใจว่าไม่มีความเสี่ยงคือยังไม่เคยร่วมเพศ ก็ไม่เป็นเริม อาจจะเกิดจากการแพ้ ระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ ร่วมกับความอับชื้นอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก (ห้ามใช้สบู่ยา หรือน้ำยาต่างๆ เพราะจะเป็นมากขึ้น) ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ถ้าไม่แน่ใจหรือไม่ดีขึ้น แนะนำหาหมอผิวหนัง |
Anonymous |
22 พฤษภาคม 2557 19:36:32 #5 ขอบคุณ คุณหมอมากๆครับ ตอนนี้ทายาแก้แพ้ไปแล้ว รู้สึกดีขึ้นครับ จะรอดูอาการต่อไปครับ แต่รู้สึกดีขึ้นมากครับ ขอบคุณคุณหมออนุพงศ์ ชิตวรากร อีกครั้งนะครับ |
Anonymous