14 กันยายน 2555 14:40:52 #1

สวัสดีค่ะ คุณหมอ หนูอายุ 19 ย่างเข้า 20 ปี

เมื่อเดือนที่แล้ว รอบเดือนหนูมาวันที่ 19 สิงหาคม มีรอบเดือนอยู่ราวๆ 5 วัน
หนูนับดูแล้ว เดือนกันยายน รอบเดือนหนูควรจะมาสักวันที่ 18-20 กันยายน (คือ 30-35 วัน รอบต่อไปจึงจะมา)
แต่ว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน (หลังรอบเดือนหมดไป 2 สัปดาห์) กลับมีเลือดสีดำๆ ไหลออกมา มีเยื่อๆคล้ายรอบเดือน แต่เป็นสีดำ (ปกติรอบเดือนหนูเป็นสีแดง น้ำตาลบ้างตอนวันหลังๆ) ปกติประจำเดือนหนูจะมามากวันแรก จากนั้นก็เริ่มน้อยลง แต่นี่คือออกสม่ำเสมอขนาดใช้ผ้าอนามัยชนิดมาปกติ 1 แผ่นทุกวันได้ เป็นอยู่สัก 1 สัปดาห์ค่ะ

ตอนแรกหนูตัดสินใจจะไปตรวจภายในอยู่แล้ว เนื่องจากตกขาวหนูมีสีเหลืองปนเขียวอ่อน มีกลิ่นคาวค่อนข้างแรง เปียกชั้นในเกือบทุกวัน บางครั้งก็จะมีเมือกสีน้ำตาลๆ (คิดถึงสีของขนมชั้นรสกาแฟค่ะ) หนืดออกมาจากช่องคลอด รวมถึง บางครั้ง จู่ๆก็มีน้ำใสๆ ไหลออกจากช่องมาแฉะชั้นในค่ะ

ช่วงหลังๆ ในซอกหลืบตรงใกล้ๆกับรูปัสสาวะ มักจะมีเม็ดตุ่มเดี่ยวๆขึ้นค่ะ เวลาล้าง หรือสัมผัสโดน จะแสบมากค่ะ

เพิ่มเติมนะคะ คือ เมื่อตอนประจำเดือนมาแรกๆ หนูเคยล้างในช่องคลอดด้วยน้ำเปล่า และนิ้ว เป็นเวลา 3-4 ปี (อายุ 12-16 ปี) หลังจากอ่านตามเว็บบอร์ด รู้ว่า การล้างอย่างนั้นจะทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็ง กับติดโรคได้ง่าย เลยไม่ทำอีก แต่รู้สึกว่า เมื่อ 3 ปีหลังมานี้ ประจำเดือนหนูมีปริมาณน้อยกว่าแต่ก่อน คือ แต่ก่อนจะมาเยอะ 2 วันแรก แต่นี่เหลือมาเยอะแค่วันแรกวันเดียว ยังงี้ผิดปกติไหมคะ?

หนูอยากทราบว่า เมื่อไปพบคุณหมอสูติฯ จะต้องตรวจอะไรบ้างคะ ?
อาการของหนูอาจจะเป็นโรคอะไรบ้างคะ? จะเป็นมะเร็งไหมคะ?
แล้วถ้าเป็นโรคต้องรักษายังไงคะ?
จะถึงขั้นต้องผ่าตัดไหมคะ?

ขอบคุณค่ะ