กระดานสุขภาพ

ผมเป็นอะไรหรอครับ รู้สึกสงสัย มากครับ
Chan*****n

10 เมษายน 2557 11:39:46 #1

คุณหมอครับ คือผมสงสัยว่าตัวเองกำลัง มีอะไรที่ผิดปกติไปจากเดิม หรือเปล่านะครับ 

แบบว่าช่วงนี้ ผมมีอาการ เหนื่อยๆ เพลียๆ เหมือนไม่มีกำลังจะทำอะไร แล้วก็ไม่ค่อยมีสมาธิ  หลงๆลืมๆเป็นครั้งคราว  โดยที่ผมก็ใช้ชีวิตเป็นปกติ กินข้าวครบทุกมื้อ(หนักสุดตรงมื้อเย็น เพราะทานหลังออกกำลังกาย)  และออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 20-40 นาที นอนหลับก็ 6-7 ชม. ในแต่ละวัน แต่ ผมก็รุ็สึกเหมือนว่านอน ไม่พออยู่ดีครับ เหมือนกล้ามเนื้อมันไม่มีแรง ในระหว่างที่เรียนแต่ละคาบเรียน และสุดท้ายก็ฟุบหลับไป เป็นแบบประจำทุกครั้ง(เป็นมาได้สัก 3 เดือนแล้วครับ) ทั้งๆ ที่แต่ก่อนไม่เคยเป็นมากก่อน แต่มาช่วงนี้ เริ่มหลับเกือบทุกคาบเป็นว่าเล่น (ระหว่างเรียนผมชอบซื้อพวกลูกอม(ซูกัส มายมินท์) มาเคยเล่นเป็นประจำ ตกๆวันหนึ่งก็ 6-7 เม็ด/วัน เพราะเห็นว่า มันจะช่วยสร้างพลังงานให้ เพื่อนำมาใช้ระหว่างเรียนนะครับ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล ยิ่งกินยิ่งหลับ และทำให้รู้สึกว่ามีน้ำตาลอยู่ในน้ำลาย เยอะมากนะครับ ก็เลยทำให้ต้องกินน้ำบ่อยเพื่อลดความหวานในน้ำลาย แต่สุดท้ายมันก็ไม่ยอมจางสักที) แล้วก็ในตอนกลางคืนผมก็ชอบทานอะไรหวานๆ ก่อนนอน ทุกครั้งเสมอนะครับ ผมเลยสงสัยว่า ผมเป็นอะไรกันแน่ครับ ทำไมผมรู้สึกว่าตนเองมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นะครับ 

อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 66 กก. ส่วนสูง: 189ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.48 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

12 เมษายน 2557 17:12:50 #2

ดูๆ วิถีการใช้ชีวิตของคุณค่อนข้างฝืนกับสรีรวิทยาปรกติของสมองและร่างกายนะครับ เช่นกินอาหารหนักในมื้อเย็น ชอบกินหวานทั้งวัน ทั้งหมดนี้มันรบกวนวงรอบการทำงานของร่างกายและสมองมากทีเดียว และนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณเกิดความผิดปรกติอย่างที่เล่ามา

ร่างกายของเรามีนาฬิกาภายในควบคุมการทำงานทุกอย่างของมันครับ เราเรียกนาฬิกาภายในนี้ว่า Circadian Rhythm

ตัวอย่างการทำงานของนาฬิกาภายในอันนี้ได้แก่ เราจะง่วงเวลากลางคืนตื่นเวลากลางวัน เราจะหิวเป็นเวลาเช่นเช้า กลางวัน เย็น แต่เราจะไม่หิวเวลากลางคืนดึกๆ เราจะปวดท้องถ่ายหนักวันละครั้งและมักจะเป็นเวลาเดิมเสมอ เป็นต้น

ทีนี้พอคุณเล่นอาหารเย็นเป็นมื้อหนัก ทุกอย่างมันก็เลยรวน ยิ่งการรับประทานอาหารหวานหรือลูกกวาดตลอดเวลานั้นมันมีผลต่อการทำงานของสมองโดยตรงครับ

สมองของคนเราจะทำงานได้ดีหากระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ของเราคงที่สม่ำเสมอ ไม่มากไปไม่น้อยไป ในภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ สมองจะทำงานได้ช้าลง ทำให้เรารู้สึกมึนงงและง่วงได้ เมื่อก่อนเราเชื่อว่าเมื่อน้ำตาลในเลือดต่ำ การให้น้ำตาลเข้าไปทดแทนโดยทันทีจะช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ตอนหลังเราพบว่าวิธีนี้ยิ่งอันตราย เพราะการให้น้ำตาลเข้าไปโดยทันที่ไม่ว่าจะด้วยการดื่มน้ำหวาน อมลูกกวาด กินน้ำตาลหรือฉีดน้ำตาลกลูโคสเข้าเส้นเลือดก็ตาม จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นโดยทันที ภาวะเช่นนี้จะกระตุ้นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ทำงานโดยฉับพลัน และผลที่ตามมาก็คือระดับน้ำตาลในเลือดของเราจะลดต่ำลงกว่าระดับปรกติภายในเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วเราก็จะเกิดอาการมึนงงและง่วงได้ ยิ่งกินน้ำตาลจำนวนมากบ่อยเท่าไหร่ เหตุการณ์แบบนี้ก็จะเกิดขึ้นได้บ่อยเท่านั้น

สมองของเราก็มีนาฬิกาภายในควบคุมการทำงานของมันเช่นกัน เวลากลางวันโดยเฉพาะในช่วงเช้ามันจะทำงานในเรื่องการคิดและการเรียนรู้ ส่วนเวลากลางคืนโดยเฉพาะเวลาที่เราหลับมันจะจัดระบบระเบียบและบันทึกข้อมูลที่เราได้เรียนรู้มาในแต่ละวันเพื่อบันทึกเป็นความจำ ด้วยเหตุนี้หลายๆ ประเทศ(ยกเว้นประเทศไทย)จึงให้นักเรียนของเขาเรียนหนักในตอนเช้า ส่วนตอนบ่ายเขาจะให้ทำกิจกรรมอย่างอื่นเพื่อเสริมการเรียนรู้ของเด็ก

ในการทำงานด้านการคิดและการเรียนรู้ สมองต้องการพลังงานจากน้ำตาล ดังนั้นอาหารเช้าจึงมีความจำเป็น และอาหารที่ดีต้องเป็นอาหารที่สามารถปล่อยน้ำตาลออกมาทีละเล็กละน้อย เพื่อให้ระดับน้ำตาลสม่ำเสมออยู่ตลอดเวลาของการทำงานในการเรียนรู้ของสมอง ไม่ใช่ปล่อยออกมาพรวดพลาดทีเดียวจนระดับน้ำตาลสูงขึ้นโดยทันที เพราะมันจะทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำตามมาภายในเวลาไม่นานอย่างที่กล่าวข้างต้น

อาหารที่เหมาะคืออาหารพวกแป้งและผัก เพราะอาหารพวกนี้มีโมเลกุลของคาร์โบไฮเดรทขนาดใหญ่และซับซ้อน มันจะค่อยๆ ย่อยในลำไส้ของเราและปล่อยน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดทีละเล็กละน้อย ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อนข้างคงที่สม่ำเสมอ ทำให้สมองสามารถทำงานได้ตามปรกติ

สิ่งที่อยากแนะนำคุณก็คือ งดลูกกวาด น้ำตาล และอะไรที่หวานๆ โดยเด็ดขาด กินอาหารเช้าที่เป็นพวกแป้งและผักให้อิ่มทุกวัน ลดปริมาณอาหารเย็นลง ออกกำลังกายตามปรกติ นอนหลับให้พอ ทั้งหมดก็เพื่อให้สมองของคุณกลับมาเข้าสู่วงจรการทำงานตามจังหวะปรกติของมัน ผมเชื่อว่าทุกๆ อย่างจะดีขึ้นครับ

ฝากอีกประโยคก่อนจบครับ ตอนนี้วงการแพทย์เราพบว่าน้ำตาลทุกชนิด ไม่ว่าจากอ้อย จากพืชอื่นๆ จากผลไม้ จากผึ้ง อันตรายทั้งนั้นครับ และอันตรายกว่าที่เราคิดมากๆ เลยทีเดียว

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร