ภาวะที่หนังศีรษะลอก คันคล้ายรังแค ที่พบบ่อยมี 2 โรคค่ะ คือ

1. โรคเซ็บเดิร์มที่หนังศีรษะ (Scalp Seborrheic dermatitis) บางคนอาจใช้ชื่ออื่นเช่น โรครังแคที่หนังศีรษะ โรคผื่นอักเสบบริเวณผิวมัน การอักเสบของต่อมไขมัน เป็นต้น แต่หมอขอใช้ชื่อทับศัพท์ตามภาษาอังกฤษเลยค่ะ จะได้ไม่สับสน
2. โรคสะเก็ดเงินที่หนังศีรษะ (Scalp psoriasis)

1. โรคเซ็บเดิร์มที่หนังศีรษะ เป็นผื่นผิวหนังอักเสบอย่างหนึ่ง พบได้บ่อยทั้งในผู้ชาย ผู้หญิง

มักเป็นๆ หายๆ มีรังแค ขุย คัน บางครั้งอาจมีผมร่วงร่วมด้วยได้ นอกจากบริเวณหนังศีรษะและ ยังสามารถพบผื่นเซ็บเดิร์มได้บริเวณ หัวคิ้ว ข้างจมูก หน้าหู ไรผม ได้ด้วย โดยเป็นผื่นแดง มีขุย คัน หน้าลอกได้ ผื่นเหล่านี้จะสัมพันธ์กับเวลาเครียด อดนอน ไม่สบาย โดนแดด ผื่นจะเห่อได้
เมื่อรักษาด้วยยาทาชนิดสเตียรอยด์ หรือ ยาฆ่าเชื้อรา ผื่นก็จะดีขึ้นภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม โรคนี้จะกลับเป็นซ้ำ เป็นๆ หายๆ ได้บ่อยจากปัจจัยกระตุ้นดังกล่าว

2. โรคสะเก็ดเงินที่หนังศีรษะ เป็นผื่นผิวหนังอักเสบอย่างหนึ่งเช่นกัน แต่ขุยที่เป็นมักจะหนากว่าขุยของโรคเซ็บเดิร์มที่หนังศีรษะ และผื่นมักจะไม่คันนัก ผมไม่ค่อยร่วง เมื่อสงสัยโรคสะเก็ดเงินที่หนังศีรษะ อาจจะต้องหาว่ามีผื่นสะเก็ดเงินที่อื่นร่วมด้วยหรือไม่ เช่นผื่นตามตัว ข้อศอก ก้น เล็บผิดปกติ เป็นต้น

สำหรับในกรณีของคุณ apisek.jaisue จากประวัติ คิดถึงกลุ่มโรคเซ็บเดิร์มที่หนังศีรษะมากกว่าค่ะ เพราะเป็นโรคที่พบบ่อย คัน และเห่อได้เมื่อโดนแดด

การรักษา อาจใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของ selenium sulfide หรือ ketoconazole shampoo สระผม ร่วมกับการทายาสเตียรอยด์ชนิดโลชั่น เช่น TA lotion หยอดที่หนังศีรษะเพื่อลดอาการอักเสบคัน ค่ะ และถ้าคันมาก อาจรับประทานยาแก้แพ้ร่วมด้วยได้ เมื่ออาการคัน รังแคบรรเทาแล้ว อาจหยุดยาทาสเตียรอยด์ แล้วใช้แต่แชมพู เพื่อควบคุมการอักเสบของหนังศีรษะ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งได้ค่ะ

สิ่งสำคัญที่ควรระลึกเสมอ คือโรคนี้เป็นๆ หายๆ ไม่หายขาด เนื่องจากปัจจัยกระตุ้นให้กำเริบเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงค่อนข้างยากโดยทั่วไป การเข้าใจโรคและวิธีการดูแลรักษา จะทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกับการเป็นโรคนี้ได้ค่ะ

ขอบคุณครับคุณหมอสำหรับคำแนะนำดีๆ ไว้ผมมีข้อสงสัยผมจะมาถามใหม่นะครับ ^^