เรียน คุณ lisa477,

จากคำถามคิดว่าคงได้กินยาไปแล้วใช่ไหมครับ และก่อนซื้อยาได้ปรึกษากับเภสัชกรร้านยาแล้วใช่ไหมครับ
จากตัวยาที่อยู่ด้านข้างแผง ลองเปรียบเทียบส่วนประกอบกันได้เลยนะครับ

คือตัวยาแต่ละเม็ด ประกอบด้วยตัวยา estradiol 35 ไมโครกรัม และ cyproterone 2 มิลลิกรัม
ความแตกต่างคือ Diane-35 เป็นยาต้นแบบ ที่ผลิตและจำหน่ายมาก่อนตั้งแต่แรก ส่วน OC-35 เป็นยาที่ผลิตภายหลังและเป็นยาที่ผลิตภายในประเทศ เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายด้านยาถูกลง

ส่วนประกอบสำคัญเหมือนกัน แตกต่างกันเรื่องบรรจุภัณฑ์ รูปร่างหรือสีและเทคนิกการเคลือบของเม็ดยาเท่านั้น
สามารถใช้ทดแทนกันได้ และยิ่งดีไปกว่า เพราะว่าตัวยา Diane นั้นเป็นยาต้นแบบ ประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ยา มีการนำมาใช้นานกว่า OC-35 อีกนะครับ

ส่วนคำถามที่ 2 วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ไม่มีผลต่อการละลายหรือดูดซึมตัวยาคุมกำเนิดนะครับ

ขอแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับประทานยาคุมกำเนิด คือ

• 1. รับประทานยาก่อนเข้านอน เนื่องจากเป็นช่วงที่ต่อมใต้สมองจะมีการหลั่งฮอร์โมนตามธรรมชาติ และ รับประทานยาในช่วงเวลาเดียวกันของทุกคืน เวลาคลาดเคลื่อน +/- ไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้ระดับยาในเลือดสม่ำเสมอ ป้องกันการลืมรับประทานยา (การรับประทานยาไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอย)
• 2. รับประทานยาสม่ำเสมอ ไม่ควรลืมรับประทานยา การลืมรับประทานยาเกิน 2 วันจะเพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ เท่ากับเมื่อไม่ได้รับประทานยา
• 3. รับประทานยา "ทุกชนิด" ด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มบางชนิดจะทำให้ตัวยาตกตะกอน การละลายและดูดซึมยาจะลดลง เช่น ชา (ชาขาว ชาเขียว ชาแดง ชานม) กาแฟ โกโก้ นม (รวมถึงโยเกิร์ต) น้ำเต้าหู้ โซดา น้ำอัดลมฯ หรือน้ำผลไม้บางชนิด จะกระตุ้นให้ตับที่เป็นแหล่งในการกำจัดยา ผลิตเอนไซม์หรือน้ำย่อยที่ใช้ในการเผาผลาญยาเพิ่มขึ้น จึงทำให้ตัวยาลดระดับลง จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ เช่น น้ำเกรปฟรุต น้ำส้มคั้น น้ำแอปเปิ้ล น้ำแครนเบอร์รี่ เป็นต้น
• 4. ก่อนการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ ต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา หรือที่มักเรียกว่า "ยาตีกัน" จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ หรือการรักษาด้วยยาอื่น ๆไม่ได้ผล

กรณีของคุณ หากยังไม่ได้แต่งงาน อาจมีทางเลือกอื่น ๆ เช่น การฝังยาคุมกำเนิด ที่มีอายุอยู่ได้ 3 หรือ 5 ปี (แล้วแต่ยี่ห้อ) โดยสามารถเข้ารับบริการได้ตามสถานพยาบาลของรัฐ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สำหรับผู้หญิงอายุน้อยกว่า 20 ปี จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมรับประทานยา

หรืออาจใช้ถุงยางอนามัยแทน นอกจากช่วยเรื่องการคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน (หนองในเทียม) พยาธิในช่องคลอด ไวรัสเริม ไวรัสตับอักเสบชนิดบี/ซี หรือหากโชคร้ายสุด คือไวรัสเอชไอวีที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ ที่ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายขาด และนอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไวรัสเอชพีวี (HPV- human Papillomavirus) ที่เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้อีกด้วย
หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันทีนะครับ ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจขาดข้อมูลสำคัญ หรืออาจช้าเกินไป ไม่ทันการ เสี่ยงต่อการเกิดการตั้งครรภ์หรือเกิดอันตรายจากการใช้ยาได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

• การคุมกำเนิด (Contraception)
• แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
• สูตินรีแพทย์
• ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
• แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
• สูตินรีแพทย์
• ยาลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด (Common medications that reduce efficacy of birth control medications)
• ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม