http://haamor.com/media/images/webboardpics/to5493-43037-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/to5493-43037-2.jpg

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นตุ่มหรืออาจจะเป็นฝีที่บริเวณอวัยวะเพศ จากประวัติที่เคยเป็นหนองในและเป็นฝีด้วย น่าจะเป็นโรคแทรกซ้อนของหนองในคือเป็นฝีากเชื้อหนองในโดยมีรูทะลุจากทีอปัสสวาะมาที่บริเวณที่เป็นฝี เรียกว่า periurthral duct abscess ต่อมาเมื่อรักษาหายแล้ว แต่ฝีและรูทะลุยังอยู่ เมื่อเกิดการอักเสบในท่อปัสสาวะ ก็ทำให้เป็นฝีใหญ่ขึ้นอีกได้ ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 1-2 อาทิตย์ ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น ในกรณีของคุณถ้าทั้งตังคุณและแฟนต่างไม่มีความเสี่ยง ก็อาจจะเกิดจากการอักเสบทั่วไป แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะ เมื่ออาการบวมหายแล้ว อาจจะขอปรึกษาเรื่องขลิบหนังหุ้มปลายและตัดฝีออกโดยต้องเลาะรอยทะลุออกด้วยเพื่อใไมให้เป็นฝีอีก โดยสรุป แนะนำหาหมอครับ