กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนไม่มา ทำไงดีคะ
Anonymous

13 กุมภาพันธ์ 2561 10:48:52 #1

คือเรามีพสพ.กับแฟนเมื่อ24ม.ค. เป็นวันไข่ตก เราป้องกันนะคะ ถุงยางก็ไม่ได้รั่ว เราก็มีพสพ.อีกที29ม.ค. เราก็ป้องกัน ถุงยางก็ไม่รั่ว เช็คแล้วค่ะ คือปจด.ต้องมาวันที่7ก พ. แต่ยังไม่มาเลยค่ะ เลื่อนมา6วันแล้ว เครียดมากเลยค่ะหมอ ทำยังไงดีคะ
อายุ: 17 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 77 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.64 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

13 กุมภาพันธ์ 2561 10:53:45 #2

คือไม่มีอาการอะไรแบบคนท้องเลยค่ะ แต่เครียดมากๆเลยค่ะ คิดทุกชั่วโมง พยายามไม่คิดแล้ว กินผลไม้ฤทธิ์ร้อนก็ไม่มา ทำไงดีคะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

15 กุมภาพันธ์ 2561 00:34:36 #3

ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณมีการป้องกันการตั้งครรภ์เป็นอย่างดี โดยการสวมใส่ถุงยางอนามัยและมีการตรวจสอบถุงยางว่าไม่มีรอยรั่วไม่ซึมออกมา ดังนั้น ควรมั่นใจและทำใจให้สบายว่าไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน การที่รอบเดือนคลาดเคลื่อนออกไปน่าจะมีผลมาจากความเครียดส่วนหนึ่ง และอาจจะเกิดจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติได้เช่นกัน เพราะคุณมีน้ำหนักตัวที่มาก ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะเกิดกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า pcos (polycystic ovarian syndrome) ภาวะนี้ผิวรังไข่จะมีความหนาตัวมากจากชั้นไขมันที่มาพอกเอาไว้ ทำให้การตกไข่ไม่ปกติ เมื่อไม่มีไข่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไปทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุก และหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจึงมีความหนาตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีรอบเดือนมาตามปกติ ดังนั้น อาจจะต้องรับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพื่อควบคุมให้รอบเดือนมาตามปกติได้ การลดน้ำหนักตัวลงจะช่วยทำให้รอบเดือนเป็นปกติได้เช่นกัน คุณไม่ได้ให้ประวัติว่าคุณเคยมีปัญหาเรื่องรอบเดือนไม่ปกติด้วยหรือไม่ ดังนั้น การไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอัลตราซาวด์จะช่วยในการวินิจฉัยภาวะนี้ได้อย่างแม่นยำและจะได้รับการรักษาและคำแนะนำในการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะภาวะนี้อาจจะทำให้คุณมีบุตรยากได้ในอนาคต และถ้ารอบเดือนไม่ค่อยมาตามปกติหรือขาดหายไปนาน ก็อาจจะเกิดความเสี่ยงต่อเรื่องของการเกิดมะเร็งของผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้เช่นกันค่ะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

15 กุมภาพันธ์ 2561 00:34:36 #4

ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณมีการป้องกันการตั้งครรภ์เป็นอย่างดี โดยการสวมใส่ถุงยางอนามัยและมีการตรวจสอบถุงยางว่าไม่มีรอยรั่วไม่ซึมออกมา ดังนั้น ควรมั่นใจและทำใจให้สบายว่าไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน การที่รอบเดือนคลาดเคลื่อนออกไปน่าจะมีผลมาจากความเครียดส่วนหนึ่ง และอาจจะเกิดจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติได้เช่นกัน เพราะคุณมีน้ำหนักตัวที่มาก ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะเกิดกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า pcos (polycystic ovarian syndrome) ภาวะนี้ผิวรังไข่จะมีความหนาตัวมากจากชั้นไขมันที่มาพอกเอาไว้ ทำให้การตกไข่ไม่ปกติ เมื่อไม่มีไข่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไปทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุก และหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจึงมีความหนาตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีรอบเดือนมาตามปกติ ดังนั้น อาจจะต้องรับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพื่อควบคุมให้รอบเดือนมาตามปกติได้ การลดน้ำหนักตัวลงจะช่วยทำให้รอบเดือนเป็นปกติได้เช่นกัน คุณไม่ได้ให้ประวัติว่าคุณเคยมีปัญหาเรื่องรอบเดือนไม่ปกติด้วยหรือไม่ ดังนั้น การไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอัลตราซาวด์จะช่วยในการวินิจฉัยภาวะนี้ได้อย่างแม่นยำและจะได้รับการรักษาและคำแนะนำในการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะภาวะนี้อาจจะทำให้คุณมีบุตรยากได้ในอนาคต และถ้ารอบเดือนไม่ค่อยมาตามปกติหรือขาดหายไปนาน ก็อาจจะเกิดความเสี่ยงต่อเรื่องของการเกิดมะเร็งของผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้เช่นกันค่ะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

15 กุมภาพันธ์ 2561 00:34:36 #5

ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณมีการป้องกันการตั้งครรภ์เป็นอย่างดี โดยการสวมใส่ถุงยางอนามัยและมีการตรวจสอบถุงยางว่าไม่มีรอยรั่วไม่ซึมออกมา ดังนั้น ควรมั่นใจและทำใจให้สบายว่าไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน การที่รอบเดือนคลาดเคลื่อนออกไปน่าจะมีผลมาจากความเครียดส่วนหนึ่ง และอาจจะเกิดจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติได้เช่นกัน เพราะคุณมีน้ำหนักตัวที่มาก ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะเกิดกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า pcos (polycystic ovarian syndrome) ภาวะนี้ผิวรังไข่จะมีความหนาตัวมากจากชั้นไขมันที่มาพอกเอาไว้ ทำให้การตกไข่ไม่ปกติ เมื่อไม่มีไข่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไปทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุก และหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจึงมีความหนาตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีรอบเดือนมาตามปกติ ดังนั้น อาจจะต้องรับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพื่อควบคุมให้รอบเดือนมาตามปกติได้ การลดน้ำหนักตัวลงจะช่วยทำให้รอบเดือนเป็นปกติได้เช่นกัน คุณไม่ได้ให้ประวัติว่าคุณเคยมีปัญหาเรื่องรอบเดือนไม่ปกติด้วยหรือไม่ ดังนั้น การไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอัลตราซาวด์จะช่วยในการวินิจฉัยภาวะนี้ได้อย่างแม่นยำและจะได้รับการรักษาและคำแนะนำในการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะภาวะนี้อาจจะทำให้คุณมีบุตรยากได้ในอนาคต และถ้ารอบเดือนไม่ค่อยมาตามปกติหรือขาดหายไปนาน ก็อาจจะเกิดความเสี่ยงต่อเรื่องของการเกิดมะเร็งของผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้เช่นกันค่ะ

Anonymous

15 กุมภาพันธ์ 2561 01:31:37 #6

เดือนที่แล้วประจำดือนเลื่อนมาสามวันค่ะ เดือนก่อนก็เลื่อนวันสองวันค่ะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

18 กุมภาพันธ์ 2561 17:00:37 #7

ถ้ารอบเดือนมีความคลาดเคลื่อนออกไปแต่ก็ยังมาอยู่ก็ไม่ควรกังวลค่ะ รออีกสักนิดรอบเดือนก็น่าจะมาได้ แต่ถ้ารอบเดือนไม่มานานตั้งแต่ 3 เดือน หมอแนะนำว่าคุณควรรับประทานฮอร์โมนเพื่อควบคุมให้รอบเดือนเป็นปกติจะดีกว่าไม่รักษาค่ะ การรักษาก็สามารถรับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตเจนหรือยาเม็ดคุมกำเนิดได้ค่ะ โดยสามารถปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาหรือมาพบแพทย์เพื่อรับฮอร์โมนไปทานได้ไม่มีอันตรายแต่อย่างใดค่ะ
________________________________________