กระดานสุขภาพ

สอบถามอาการคุณหมอหน่อยครับ
Mooa*****t

27 มกราคม 2559 13:42:46 #1

ผมมีอะไรกับแฟนในวันที่ 4 มกราคม 2559 ลืมตรวจเช็คถุงยางอนามัย ตื่นเช้าตื่นมาเป็นรอยรั่วครับแต่ตอนใกล้เสร็จผมดึงออกนะครับไม่ได้เอาเข้าข้างใน หลังจากนั้นเช้าวันที่ 5 มกราคม 2559 ให้แฟนกินยาคุมฉุกเฉินเวลา 11.00น. แล้วเมนมาวันที่ 6 มกราคม - 10 มกราคม ครับ และก่อนหน้านี้เคยให้แฟนกินยาคุมฉุกเฉินในเดือนที่แล้ววันที่ 4 ธันวาคม 2558 เมนมา10- 13 ธันวาคม นะครับ ซึ่งก่อนหน้านี้พฤศจิกายนเมนมาวันที่ 22 - 27 พฤศจิกายน 2558 ครับ 

#วันที่ 23 มกราคม มีอาการตื่นตอนเช้าเหมื่อยตามล่างกาย มึนหัวนิดหน่อย

#วันที่ 24 มีอาการตกขาว ผลเลยซื้อที่ตรวจมาเพื่อตรวจตอนเช้าวันที่ 25 2อัน

#วันที่ 25 ตรวจปัสสาวะตอนเช้าผลคือไม่ท้อง 2 ขีดครับ ตอนกลางคืนมีเลือดสีแดงกระปิดกระปอย

#วันที่ 26 แฟนผมมีอาการตกขาวสีน้ำตาล + ตอนปัสาวะมีเหมือนเมนออกมาเป็นเส้นครับ+ปวดท้องบริเวณล่างสะดือไปถึงก้นครับ

#ในวันนี้วันที่ 27 มีเลือดออกมาอีกครับสีน้ำตาลแต่น้อยมาก ตอนเวลาช่วงบ่ายครับ

คำถามที่จะถามคุณหมอคือ

1.แฟนผมท้องไหมครับ

2.ถ้าจะตรวจอีกครั้งคุณหมอแนะนำตรวจตอนไหนดีครับ

3.หรือเป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณหมอ

ขอบคุณคุณหมอล่วงหน้าด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

 

 

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 159ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.57 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Mooa*****t

27 มกราคม 2559 13:45:32 #2

คุณหมอครับเขียนผิดนิดนึงครับ

#วันที่ 25 ตรวจปัสสาวะตอนเช้าผลคือไม่ท้อง 1 ขีดครับทั้ง 2 อัน ตอนกลางคืนมีเลือดสีแดงกระปิดกระปอย

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

20 กุมภาพันธ์ 2559 06:51:41 #3

หากในการมีเพศสัมพันธ์นั้นใช้ถุงยางอนามัยแล้วมีปัญหา ขาด รั่ว หรือ ปริแตก การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ซึ่งการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้ยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

ซึ่งหากตรวจออกมาแล้วปกติ ไม่ตั้งครรภ์ เรื่องประจำเดือนที่ผิดปกตินั้น ส่วนอาการต่างๆที่กล่าวมานั้น ก็ไม่ได้สัมพันธ์กับการตั้งครรภ์นะครับ สบายใจได้ครับ หมอคิดว่าเลือดที่ออกผิดปกตินั้นน่าจะเป็นสาเหตุจากยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ ส่วนสาเหตุอื่นๆในช่วงอายุนี้ที่ทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ มักเกิดจากมีสาเหตุที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป หรือ ประจำเดือนไม่มา ขาดหายไปเกิน 2 สัปดาห์ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

ในเรื่องของอาการตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องสักนิดนะครับ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ