กระดานสุขภาพ

หลังจากมีเพศสัมพันธ์ 2-3 วันอวัยวะเพศของสามีมีอาการบวมแดง ไม่เจ็บ ไม่คัน เป็นเพราะอะไรค่ะ
Anonymous

5 กุมภาพันธ์ 2558 10:40:44 #1

วัสดีค่ะ รบกวนสอบถามดังนี้ค่ะ

(ตามรูป) อาการแบบนี้เกิดขึ้นมา 2 ครั้งแล้วหลังจากมีเพศสัมพันธ์กันค่ะ แต่ไม่เกิดติดต่อกัน ซึ่งก่อนหน้าหนี้ไม่เคยมีอาการเลย เป็นครั้งแรกประมาณเดือน ก.ย.57 พอหลังจากมีเพศสัมพันธ์ วันที่ 2 หรือ 3 อวัยวะเพศก็จะบวมแดง แต่สามีบอกว่าไม่เจ็บ ไม่คัน ไม่แสบ ไม่มีอาการใดๆ ร่วมด้วยเลย แต่ถ้าหากไปลูบจับตรงที่บวมแดงจะมีคันนิดหน่อย อาบน้ำได้ปกติไม่แสบเจ็บ หรือมีไข้ อีกประมาณ 3-4 วันอาการบวมแดงก็จะหายไปค่ะ แล้วครั้งที่ 2 ก็มีอาการเด่นชัดอีกครั้งเมื่อวันที่ 3 กุมภา 58 แต่ครั้งนี้เหมือนมีเป็นแผลร่วมด้วย แต่อาการก็ไม่มีเจ็บปวด แสบ คัน มีไข้ เหมือนครั้งแรก และส่วนตัวดิฉันก็ไม่มีอาการอะไรเลย ปกติทุกอย่าง ตอนนี้ร้อนใจมากค่ะ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ถ้าเป็นรักษาได้อย่างไร หายหรือไม่ และถ้าหากต้องเข้ารับการรักษา เปลี่ยนมาซื้อยาทาน หรือทาก่อนได้หรือไม่ ถ้าได้ขอทราบชื่อตัวยาด้วยค่ะ เพราะตอนนี้อยู่ที่อินโดการแพทย์ การสื่อสารลำบากมาก
ประวัติ เราไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันบ่อยค่ะ เพราะอยู่ห่างกัน สามีอยู่อินโดเนียเซีย ส่วนดิฉันอยู่ไทย และส่วนตัวก็ไม่มีประวัติเปลี่ยนคู่นอน

ขอพระคุณอย่างสูงค่ะ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/febf4-19801-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/febf4-19801-2.jpg

อายุ: 42 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 76 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.69 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

6 กุมภาพันธ์ 2558 17:25:54 #2

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลเล็กตื้นๆหลายแห่งน่าจะเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด
เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง รุนแรง สำหรับเรื่องการติดต่อนั้นโดยทั่วไปแล้ว จะติดต่อกันได้ง่ายขณะที่มีรอยโรค เช่น ตุ่มน้ำ หรือขณะที่มีแผล อย่างไรก็ตามมีการศึกษาที่ประเทศอเมริกาพบว่า อาจพบเชื้อไวรัสจากสารคัดหลั่งหรือเมือกบริเวณอวัยวะเพศได้แม้ไม่มีอาการแสดงของตุ่มน้ำหรือแผล เป็นไปได้ว่าอาจมีแผลที่ปากมดลูก หรือในช่องคลอดหรือในท่อปัสสาวะซึ่งไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากภายนอก โดยพบประมาณ 10% ของจำนวนวัน คือใน 1 ปีอาจพบได้ 36 วัน ในขณะที่ถ้ามีรอยแผลจะพบ 21% คือ 77 วัน เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อเริมจากคนที่เคยเป็นเริมมาก่อนก็เป็นไปได้แต่จะน้อยกว่าการติดเชื้อขณะที่มีตุ่มน้ำหรือแผล

Anonymous

9 กุมภาพันธ์ 2558 01:10:29 #3

ขอเรียนสอบถามเพิ่มเติมค่ะ ขณะนี้อยู่ประเทศอินโดเนียเซีย สามารถซื้อยาทาและยากินแทนการไปหาหมอก่อนได้ไหม ถ้าได้ช่วยแนะนำยากินกับยาทาด้วยค่ะ สาเหตุเนื่องจากการแพทย์ที่อินโดเรายังไม่มั่นใจ และการสื่อสารเป็นไปลำบากมาก. 

และถ้าดิฉันจะกลับประเทศเทศไทยคนเดียวสามารถไปตรวจหาเชื้อเพื่อรักษาก่อน สามีจะกลับและเข้ารักษาตามหลังจะได้ไหมค่ะ เพราะสามีมีติดภาระกิจการทำงานมากจึงลางานไม่ได้ค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ