กระดานสุขภาพ

คันอวัยวะเพศหญิง
Bowy*****y

8 พฤศจิกายน 2555 09:26:07 #1

สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องรบกวนปรึกษาเรื่องคันบริเวณอวัยวะเพศค่ะ ส่วนมากจะคันบริเวณที่ปัสสาวะคะ (ตรงหัวด้านบน ขอโทษค่ะอธิบายไม่ถูก) แต่ไม่มีตกขาวหรือกลิ่นเหม็นน่ะค่ะ เคยอ่านตามเว็บไซท์สุขภาพก็บอกสามารถเกิดจากการทานยาปฏิชีวนะจำพวกยาแก้อักเสบเป็นเวลานานก้ได้ ซึ่งช่วงนั้นทานยาปฏิชีวนะหลายตัว(จำพวกแก้อักเสบ) เพราะว่ารักษาอาการเจ็บคอต่อมทอมซิลอักเสบ และทานยาแก้อักเสบคลายกล้ามเนื้อ ช่วงนั้นทานอยู่ประมาณสองอาทิตย์กว่าค่ะ 

อยากทราบว่าเป็นสาเหตุของอาการคันได้มั้ยค่ะ ตอนนี้ทายาที่ชื่อว่า Travogen อยู่ค่ะ เริ่มมีอาการดีขึ้นบ้าง แต่ก้อยากไปปรึกษาแพทยืเหมือนกันค่ะ ควรไปพบแพทย์สูติ หรือแพทย์ผิวหนังค่ะ

อีกเรื่องค่ะเมื่อวันก่อนมีพสพกับแฟน แล้วแฟนไม่ได้ทำความสะอาดหลังมีพสพทันทีค่ะ ตอนนี้แฟนมีอาการคันค่ะ ไม่ทราบว่าเพราะติดดิฉันไปหรือเป็นเพราะอะไรค่ะ (แฟนจะไปพบแพทย์ในวันพรุ่งนี้ถ้าหากไม่ดีขึ้นค่ะ)

ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้าค่ะ

อายุ: 27 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 71 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.08 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

8 พฤศจิกายน 2555 11:53:46 #2

จากอาการเหมือนเชื้อราบริเวณปากช่องคลอด มักมีอาการคันเป็นหลัก หากเห็นผื่นแดงๆขุ่ยๆ ก็ยิ่งแน่ชัดครับ การรักษาหลักคือ การใช้ยาทา ซึ้งยาที่กล่าวมาก็ใช้ได้ครับ แต่อยากให้ทาจนอาการดีขึ้นและทาต่ออีก 1-2 สัปดาห์ เพราะราจะมีสปอร์อาจเจริญต่อเป็นราได้อีก

ส่วนสาเหตุที่บอกว่า การทานยาปฎิชีวนะนั้นทำให้เป็นเชื้อรา นั้นจะต้องเป็นยาที่คลอบคลุมเชื้อหลายๆอย่าง เป็นเวลานานกว่า 3 สัปดาห์ เพราะจะทำให้เชื้อแบคทีเรียประจำถิ่นที่สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้ช่องคลอดนั้นตาย เชื้อราเลยโตมาแทน แต่เชื้อราจะอยู่ในช่องคลอดครับ ซึ่งจำมีอาการตกขาว คันในช่องคลอดมากๆ แต่ที่คุณเป็นนั้นมักมีสาเหตุจากความชื้นและการสัมผัสจากเสื้อผ้าที่มีเชื้อรามากกว่าครับ และอาการคันของสามีคุณนั้น น่าจะเป็นเชื้อราได้เช่นเดียวกันครับ