กระดานสุขภาพ

ปรึกษาการกินยาหน่อยค่ะ
Anonymous

8 พฤศจิกายน 2561 13:52:25 #1

คือเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว มีเลือดออกคุณหมอให้ยา steron,transamin และ mednil มาทานค่ะ ทานจนหมด คุณหมอก็เลยนัดเพื่อมาตรวจดูว่าปวดท้องมั้ย ซึ่งดิฉันก็มีอาการปวดท้องเหมือนเป็นประจำเดือน คุณหมอเลยให้ยาชุดเดิมมากิน แต่คุณหมอไม่ได้บอกนะคะว่าเป็นยาชุดเดิม บอกแค่ว่า ตัว1 จะเริ่มกินวันที่ 25 แต่ถ้าเมนส์มาเยอะให้กิน ตัวที่เป็นแคปซูล ถ้าปวดท้องมากให้กินพอนสแตน แต่พอได้ยามาจึงรู้เป็นยาชุดเดิมค่ะ โดยหน้าซองยา steron มเขียนบอกวันเริ่มค่ะ แต่ mednil และ transamin ไม่มีบอกค่ะ ซึ่งทั้ง 3 ตัวได้มาจำนวนเยอะกว่าเดิม และคุณหมอก็นัดตรวจอาการอีกเดือนมกราค่ะ โดยยา mednil ได้มา 20 เม็ด และ transamin ได้มา 60 เม็ด ค่ะ อยากทราบว่า ยา mednil และ transamin สามารถทานได้เลยมั้ยคะ และต้องทานต่อๆไปจนครบ 60 และ 20 เม็ดหรือต้องหยุดบ้างคะ และส่วนยา steron ที่กิน 10 วันหยุด นี้คือเริ่มกินทุกๆวันที่ 25 ของทุกเดือนใช่มั้ยคะ และคือตอนนี้เป็นประจำเดือน อยากทราบว่าถ้ากิน ยา 2 ตัวนี้ไป จะมีผลกับประจำเดือนมั้ยคะ
อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.60 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

16 พฤศจิกายน 2561 04:28:09 #2

เรียน คุณ c8000,

ก่อนตอบคำถามของคุณ ขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวยาแต่ละตัวที่คุณสอบถามมานะครับ

1. Steron หรือตัวยาสำคัญคือ norethisterone เป็นฮอร์โมนประเภทโปรเจสติน ที่ช่วยสร้างสมดุลให้กับฮอร์โมนเพศหญิง (ตามธรรมชาติมีหลัก ๆ 2 ชนิดคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่ช่วยเร่งให้มีการเจริญเติบโตของไข่ในรังไข่ มีเต้านมโต มีการหนาตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก ส่วนโปรเจสตินจะเป็นฮอร์โมนเพศในช่วงหลังของรอบเดือน เพื่อให้มีการคงตัวอยู่ของเยื่อบุโพรงมดลูก หากมีการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนนี้จะช่วยให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่หลุดลอกก่อนกำหนด - รายละเอียดศึกษาได้จากบทความที่แนะนำนะครับ)

ข้อบ่งใช้ ภาวะประจำเดือนผิดปกติ ภาวะขาดประจำเดือน ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือใช้เพื่อเลื่อนประจำเดือน

2. Mednil ตัวยาสำคัญ คือ mefenamic acid เป็นยาลดอาการปวดอักเสบของกล้ามเนื้อหรือกระดูกชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือ NSAIDs ข้อบ่งใช้ คือบรรเทาอาการปวด อักเสบ บวม แดงร้อนของกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ นอกจากนี้ยังช่วยลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูกได้ด้วย จึงช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน และจากกลไกนี้จึงช่วยลดปริมาณเลือดประจำเดือนได้อีกด้วย

3. Transamin ตัวยาสำคัญ คือ tranexamic acid มีคุณสมบัติช่วยลดการสลายลิ่มเลือด จึงช่วยลดการเสียเลือดลงได้อีกทางหนึ่งด้วย

ขอแยกตอบตามประเด็นคำถามนะครับ

1. ยาทั้งสองตัวให้รับประทานตามอาการดังที่แพทย์แจ้งนะครับ คือ

พอนสแตน หรือ mefenamic acid รับประทานเมื่อมีอาการปวดประจำเดือน ส่วน transamin นั้นให้รับประทานเมื่อเลือดประจำเดือนมามากกว่าปกติ ไม่จำเป็นต้องรับประทานอย่างต่อเนื่อง

2. ยา Steron หรือ norethisterone นั้นต้องรับประทานทุกเดือนตามวันที่แพทย์ระบุเป็นประจำ เพื่อช่วยปรับฮอร์โมนเพศในร่างกายให้เข้าสู่สมดุล

3. หากไม่มีภาวะปวดประจำเดือนมาก ก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาพอนสแตน หรือหากไม่มีภาวะเลือดประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือประจำเดือนมาติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาทั้งสองตัวนี้ครับ

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากในบางครั้งอาจต้องมีการสอบถามข้อมูลอื่น ๆเพิ่มเติม เช่น ภาวะการทำงานของตับหรือไต โรคประจำตัวอื่น ๆ ฯ หรือในบางครั้งอาจช้าเกินไป ไม่ทันเวลา เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้


เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล


แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

  • ประจำเดือน (Menstruation)
  • แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
  • สูตินรีแพทย์
  • ประจำเดือนผิดปกติ (Menstrual disorder)
  • รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ประนอม บุพศิริ
  • สูตินรีแพทย์
  • นอร์อิทิสเตอโรน (Norethisterone) หรือ พริมโมลูท เอ็น (Primolut N)
  • เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
  • เมเฟนามิค (Mefenamic)
  • เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
  • ยาแก้ปวดประจำเดือน (Dysmenorrhea medication)
  • พรลภัส บุญสอน
  • เภสัชกร
  • กรดทราเนซามิค (Tranexamic acid) หรือ ทรานซามิน (Transamin)
  • เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร